คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2986/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มิได้บรรยายฟ้องแยกการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองพอที่จะเห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามฟ้องข้อ ค. ในแต่ละข้อหาเป็นแต่ละกรรมแยกต่างหากจากกัน แม้ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันบุกรุกทำให้เสียทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ข้อหาทำให้เสียทรัพย์และข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส 2 กรรมเกินจากฟ้องหาได้ไม่ เพราะเป็นการขัดต่อ ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 358, 362, 365, 371, 80, 83, 91 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, 358, 365, 371, 83 ข้อนำสืบของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอันเป็นการให้ความรู้แก่ศาล มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 1 ปี และปรับ 60 บาท ข้อหาอื่นให้ยก ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 สำหรับจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 (8), 358, 365 (2) (3) ประกอบมาตรา 362, 371 ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 72 วรรคสาม กับมาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 รวมจำคุกคนละ 3 ปี 18 เดือน เมื่อลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสามแล้ว คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 12 เดือน กับให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 เสีย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์บรรยายการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองกับพวกในข้อหาร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นรวมกันมาในข้อเดียวกันคือข้อ ค. โดยการกระทำที่บรรยายฟ้องในข้อดังกล่าว โจทก์มิได้บรรยายฟ้องแยกแยะการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองกับพวกให้ปรากฏชัดแจ้งพอที่จะเห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามฟ้องข้อ ค. ในแต่ละข้อหาเป็นแต่ละกรรมแยกต่างหากจากกัน ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันบุกรุกทำให้เสียทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนเป็นเหตุให้รับอันตรายสาหัส ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัสสองกรรมเกินจากที่ได้กล่าวในฟ้องหาได้ไม่ เพราะเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคหนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์เป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งนั้นเป็นการไม่ชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และเนื่องจากเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ที่ไม่ได้ฎีกาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 3 ปี เมื่อรวมกับโทษจำคุกของจำเลยทั้งสองคนละ 6 เดือน ในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และโทษจำคุกคนละ 6 เดือน ในความผิดฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตแล้ว เป็นจำคุกคนละ 3 ปี 12 เดือน ลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share