คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 298/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยให้การและยื่นคำแก้อุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เช่านาไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยแม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้ยกปัญหาดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยจำเลยก็มีสิทธิฎีกาได้ ตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯมาตรา9(1)เพียงแต่กำหนดว่าในการพิจารณาเรื่องอันเกี่ยวกับการเช่าในเขตหมู่บ้านใดให้ผู้ใหญ่บ้านแห่งเขตหมู่บ้านนั้นเป็นกรรมการด้วยเท่านั้นหากการประชุมมีกรรมการประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดตามมาตรา18วรรคหนึ่งการประชุมก็ชอบกฎหมายแล้วแม้ผู้ใหญ่บ้านจะมิได้เข้าประชุมก็ตาม

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ บังคับ จำเลย ปฏิบัติ ตาม มติ คชก. ตำบล บางคา โดย ขาย ที่ดิน โฉนด เลขที่ 8300 ใน ราคา 140,000 บาท แก่ โจทก์หาก จำเลย ไม่ปฏิบัติ ตาม ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนาของ จำเลย จำเลย ให้การ ขอให้ ยกฟ้อง ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษายก ฟ้อง โจทก์ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ จำเลย จดทะเบียน โอน ที่ดิน โฉนด เลขที่8300 ให้ โจทก์ ใน ราคา 140,000 บาท โดย ชำระ เงิน เมื่อ ทำการจดทะเบียน โอน ขาย หาก จำเลย ไม่ปฏิบัติ ตาม ให้ ถือเอา คำพิพากษาแทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย จำเลย ฎีกา ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “จำเลย ฎีกา ข้อ แรก ว่า โจทก์ ไม่ใช่ ผู้เช่า นาไม่มี สิทธิ ฟ้อง จำเลย ข้อ นี้ จำเลย ให้การ และ ยื่น คำแก้อุทธรณ์ ว่าโจทก์ ไม่ใช่ ผู้เช่า นา ไม่มี สิทธิ ฟ้อง จำเลย แม้ ศาลอุทธรณ์ จะ มิได้ ยกปัญหา ดังกล่าว ขึ้น วินิจฉัย จำเลย ก็ มีสิทธิ ที่ จะ ฎีกา ได้ เห็นว่า โจทก์มี นาย สมพาน ใหม่ก๋งลาย นาย สัญชัย เหลืองรุ่งวสันต์ และ นาย แฉล้ม ศรีทอง ซึ่ง ทำนา ใน ที่ดิน ซึ่ง อยู่ ติดกับ นา พิพาท เบิกความ เป็น พยาน ว่า โจทก์ ทำนา พิพาท ใน ฐานะ ผู้เช่า จาก นาง เล็ก ส่วน จำเลย มี นาย สินสุข เป็น พยาน เบิกความ แต่เพียง ว่า ก่อน ไป ซื้อ ที่นา พิพาท ไม่มี การ ปลูก ข้าว เท่านั้น พยานโจทก์ จึง มี น้ำหนัก ดีกว่า พยาน จำเลยข้อเท็จจริง ฟังได้ ว่า โจทก์ เป็น ผู้เช่า ที่นา พิพาท ฎีกา จำเลย ข้อ นี้ฟังไม่ขึ้น จำเลย ฎีกา ต่อไป ว่า คำวินิจฉัย ของ คชก. ตำบล บางคา ไม่ชอบ เพราะ ใน การ ประชุม ไม่ ปรากฎ ว่า มี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ที่นา พิพาทตั้ง อยู่ เป็น กรรมการ ด้วย ไม่มี การ สอบสวน หา ข้อเท็จจริง ก่อน ลงมติและ จำเลย ซื้อ ที่นา พิพาท มาจาก นาย สินสุข ใน ราคา 600,000 บาท ข้อ นี้ จำเลย นำสืบ ว่า โจทก์ ได้ ร้องเรียน ต่อ คชก. ตำบล บางคา ปรากฏ ตาม เอกสาร หมาย จ. 7 และ คชก. ตำบล บางคา ได้ ประชุม และ มี คำวินิจฉัย ปรากฏ ตาม เอกสาร หมาย จ. 9 เห็นว่า ตาม พระราชบัญญัติการเช่าที่ดิน เพื่อ เกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 9(1) เพียงแต่กำหนด ว่า ใน การ พิจารณา เรื่อง อัน เกี่ยวกับ การ เช่า ใน เขต หมู่บ้าน ใดให้ ผู้ใหญ่บ้าน แห่ง หมู่บ้าน นั้น เป็น กรรมการ ด้วย เท่านั้น ฉะนั้น หากการ ประชุม มี กรรมการ ประชุม ไม่ น้อยกว่า กึ่งหนึ่ง ของ จำนวน กรรมการทั้งหมด ตาม มาตรา 18 วรรคหนึ่ง การ ประชุม ก็ ชอบ ด้วย กฎหมาย แล้วและ ตาม รายงาน การ ประชุม เอกสาร หมาย จ. 9 ก็ ปรากฏว่า ที่ ประชุมได้ สอบถาม ข้อเท็จจริง จาก นาย สัญชัย นาย สมพาน นาย แฉล้ม และ นาย ประภา ซึ่ง เป็น ผู้รู้เห็น การเช่านา ระหว่าง โจทก์ กับ นาง เล็ก แล้ว จึง ลงมติ ฉะนั้น คำวินิจฉัย ใน ข้อ นี้ จึง ชอบแล้ว ฎีกา จำเลย ข้อ นี้ ฟังไม่ขึ้น ” พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ โจทก์ ซื้อ ที่นา พิพาท จาก จำเลย ใน ราคา ไร่ ละ35,000 บาท โดย ให้ โจทก์ ชำระ ราคา ภายใน หก สิบ วัน นับแต่ วัน มีคำพิพากษา ของ ศาลฎีกา มิฉะนั้น ให้ ถือว่า โจทก์ ไม่ติดใจ ขอ ซื้อ คืนนอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์

Share