คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2973/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนอ่านคำพิพากษา ทนายโจทก์ที่ 4 แถลงว่าโจทก์ที่ 4 ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 2,730 บาท ขอแก้ไขให้ถูกต้องตามความเป็นจริงศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตแล้ว ซึ่งโจทก์ที่ 4 ชอบที่จะได้รับค่าชดเชยจำนวน 16,380 บาท แต่ศาลแรงงานกลางกลับพิพากษาให้เพียง 13,380 บาท จึงเป็นการผิดพลาดไป ศาลฎีกาแก้ไขเสียให้ถูกต้องโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 ได้.

ย่อยาว

โจทก์ทั้งหกฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์ทั้งหกเป็นลูกจ้างประจำของจำเลย ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายคนละ 5,325 บาท3,280 บาท 3,900 บาท 2,730 บาท 5,350 บาท และ 3,175 บาทตามลำดับต่อมาได้เลิกจ้างโจทก์ที่ 1 ถึงโจทก์ที่ 4 เพราะเหตุครบเกษียณอายุ และเลิกจ้างโจทก์ที่ 5 กับโจทก์ที่ 6 ด้วยเหตุคนล้นงานและต้องการเปลี่ยนแปลงกรรมวิธีการผลิต อันเป็นการเลิกจ้างโดยโจทก์ทั้งหกไม่มีความผิด จำเลยไม่ได้จ่ายค่าชดเชยให้ตามกฎหมาย โจทก์ที่ 1 ถึงโจทก์ที่ 6 มีสิทธิได้รับค่าชดเชยคนละ 31,950 บาท 19,680 บาท 23,400 บาท 16,200 บาท 32,100 บาท และ19,050 บาท ตามลำดับ ขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ทั้งหกครบถ้วนแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดฟังคำพิพากษา ก่อนอ่านคำพิพากษา ทนายโจท์ที่ 5 แถลงว่า โจทก์ที่ 4 ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 2,730 บาทขอแก้ไขให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ศาลแรงงานกลางอนุญาต
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ที่ 1จำนวน 31,950 บาท แก่โจทก์ที่ 2 จำนวน 18,180 บาท แก่โจทก์ที่3 จำนวน 22,800 บาท แก่โจทก์ที่ 4 จำนวน 13,380 บาท แก่โจทก์ที่ 5 จำนวน 32,100 บาท และแก่โจทก์ที่ 6 จำนวน 18,900 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า อนึ่งคดีเฉพาะตัวโจทก์ที่ 4 ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 28 เมษายน 2531 โจทก์ที่ 4 แถลงว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายที่แท้จริงของตนคือ 2,730 บาท จึงขอแก้ไขให้ถูกต้องตามความเป็นจริง และศาลแรงงานกลางก็อนุญาตแล้วซึ่งโจทก์ที่ 4 ชอบที่จะได้รับค่าชดเชยจำนวน 16,380 บาท ครั้นศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ที่ 4 กลับพิพากษาให้เพียง 13,380 บาทเมื่อคำนวณแล้วเท่ากับโจทก์ที่ 4 ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเพียงเดือนละ 2,230 บาทเท่านั้น จึงเป็นการผิดพลาดไป เห็นควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 31
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ที่ 4จำนวน 16,380 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลแรงงานกลาง.

Share