คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2525

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ในชั้นขอคืนของกลาง ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าอุปกรณ์โต๊ะบิลเลียดเป็นของผู้ร้อง โจทก์มิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์ดังนั้นฎีกาของโจทก์ว่า อุปกรณ์ดังกล่าวไม่ใช่ของผู้ร้องจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

ชั้นขอคืนของกลาง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้คืนของกลางตามขอแก่ผู้ร้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ทางพิจารณาได้ความในเบื้องต้นว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โต๊ะบิลเลียดของกลาง มีผู้นำโต๊ะบิลเลียดดังกล่าวไปตั้งที่สมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย วันเวลาเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสองได้ ในขณะที่จำเลยทั้งสองใช้โต๊ะบิลเลียดพร้อมอุปกรณ์ของกลางเล่นการพนัน พนันทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต

พิเคราะห์แล้ว ปัญหาข้อแรกที่ต้องวินิจฉัยมีว่าผู้ร้องได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองหรือไม่ ผู้ร้องเบิกความว่าผู้ร้องได้ให้นางไข่มุกข์ ยนตรกิจ เช่าโต๊ะบิลเลียดพร้อมอุปกรณ์ของกลาง เมื่อต้นปีพ.ศ. 2520 ตามสัญญาเช่าเอกสารหมาย ร.1 แล้วนางไข่มุกข์ นำไปตั้งที่สมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย และผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสอง คำของผู้ร้องดังกล่าวมีนางไข่มุกข์ ยนตรกิจ เบิกความสนับสนุน แม้ลายมือชื่อผู้เช่าในเอกสารหมาย ร.1 จะเขียนว่า “นางไข่มุกข์ ยนตรกิจ” ซึ่งแตกต่างกับลายมือชื่อพยานผู้ร้องในบันทึกคำเบิกความของพยานตามสำนวนอันดับ 22 ที่เขียนว่า “นางไข่มุกข์ ยนตรกิจ” แต่ลายมือชื่อทั้งสองดังกล่าวมีรูปร่างและลีลาการเขียนคล้ายกัน คงผิดกันเฉพาะอักษรที่ใช้เป็นตัวการันต์ชื่อเท่านั้น เชื่อว่านางไข่มุกข์ ยนตรกิจ พยานผู้ร้องเป็นคนเดียวกันกับนางไข่มุกข์ ยนตรกิจผู้เช่าโต๊ะบิลเลียดของผู้ร้อง ส่วนโจทก์ไม่มีพยานมาสืบหักล้างให้รับฟังเป็นอย่างอื่น ข้อเท็จจริงเชื่อได้ตามที่ผู้ร้องนำสืบว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสอง

ปัญหาข้อต่อไปที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลไม่ควรคืนอุปกรณ์โต๊ะบิลเลียดของกลางให้แก่ผู้ร้อง เพราะสัญญาเช่าระหว่างผู้ร้องกับนางไข่มุกข์ไม่ได้ระบุให้แน่ชัดว่าอุปกรณ์โต๊ะบิลเลียดมีอะไรบ้างนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาว่าอุปกรณ์โต๊ะบิลเลียดมิใช่เป็นของผู้ร้อง ไม่ควรคืนให้แก่ผู้ร้อง ปัญหาดังกล่าวศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า อุปกรณ์โต๊ะบิลเลียดเป็นของผู้ร้อง ซึ่งโจทก์มิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”

พิพากษายืน

Share