คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2965/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานใช้รถที่มิได้เสียภาษีประจำปีก็ดี ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถก็ดี ฐานใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยก็ดีล้วนแต่เป็นการกระทำความผิดที่แยกต่างหากจากกัน และเป็นความผิดสำเร็จได้ในแต่ละฐานโดยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑, ๓๐๐ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓, ๑๕๗ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖, ๔๒, ๖๐, ๖๔ พระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๔, ๗, ๑๑, ๓๙
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๐ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ (๔), ๑๕๗ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖ วรรคหนึ่ง, ๕๙, ๖๔ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๗, ๑๑, ๓๙ เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๐ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ จำคุก ๑ ปี ฐานใช้รถที่มิได้เสียภาษีประจำปี ปรับ ๒,๐๐๐ บาท ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถปรับ ๖๐๐ บาท ฐานใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประกันภัย ปรับ ๑๔,๐๐๐ บาท รวมจำคุก ๑ ปี และปรับ ๑๖,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๖ เดือน และปรับ ๘,๓๐๐ บาท ถ้าไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนค่าปรับ
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยให้ปรับ ๖,๐๐๐ บาท รวมโทษจำคุก ๑ ปี และปรับ ๘,๖๐๐ บาท เมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ แล้วจำคุก ๖ เดือนและปรับ ๔,๓๐๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว คดีมีปัญหาชั้นฎีกาว่า การกระทำความผิดฐานใช้รถที่มิได้เสียภาษีประจำปี ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ และฐานใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทหรือเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เห็นว่า ความผิดฐานใช้รถที่มิได้เสียภาษีประจำปีก็ดี ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถก็ดี ฐานใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยก็ดี ล้วนแต่เป็นการกระทำความผิดที่แยกต่างหากจากกัน และเป็นความผิดสำเร็จได้ในแต่ละฐานโดยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นการกระทำความผิดของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน มิใช่เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทดังที่จำเลยฎีกา ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีส่วนนี้ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟัง ไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share