แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสองเป็นตัวแทนฝ่ายขายมิได้เก็บเงินดาวน์ทั้งหมดจากลูกค้าที่เช่าซื้อสินค้าจากโจทก์ แต่เก็บเงินดาวน์มาเพียงบางส่วนและให้ลูกค้าชำระเงินดาวน์ส่วนที่เหลือในภายหลังนั้นโจทก์ให้จำเลยทั้งสองเป็นผู้รับผิดชอบเงินดาวน์ส่วนที่เหลือเองโดยหากจำเลยทั้งสองยังมิได้นำเงินดาวน์ส่วนที่เหลือมาชำระให้โจทก์ภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป โจทก์ก็จะนำเงินดาวน์ส่วนที่เหลือดังกล่าวมาหักออกจากยอดรายได้ของจำเลยทั้งสองในการคิดบัญชีของโจทก์และจำเลยทั้งสองในวันที่ 10 ของเดือนนั้นดังนี้ แม้จำเลยทั้งสองเก็บเงินดาวน์ส่วนที่เหลือจากลูกค้าเป็นจำนวนตามฟ้องแล้วยังไม่นำเงินจำนวนดังกล่าวไปส่งมอบให้โจทก์ และไม่มาคิดบัญชีประจำเดือนกับโจทก์ การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวก็เป็นเพียงการผิดสัญญาในทางแพ่งไม่เป็นความผิดฐานยักยอก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นตัวแทนรับมอบสินค้าของโจทก์ไปจำหน่ายโดยการขายและให้เช่าซื้อตามราคาที่โจทก์กำหนดโดยจำเลยทั้งสองต้องส่งมอบเงินทั้งหมดที่ได้รับจากลูกค้าให้แก่โจทก์จำเลยทั้งสองในฐานะตัวแทนของโจทก์ได้ร่วมกันรับมอบและครอบครองเงินค่ามัดจำสินค้าหรือเงินที่ได้จากการให้เช่าซื้อสินค้าของโจทก์จากลูกค้า แล้วไม่ส่งมอบเงินจำนวนนั้นให้โจทก์กลับร่วมกันเบียดบังเอาเงินจำนวนนั้นไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352, 353, 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยทั้งสองได้กระทำผิดฐานยักยอกเงินจำนวน 14,000 บาทที่จำเลยทั้งสองได้รับจากลูกค้าตามฟ้องหรือไม่ ในปัญหานี้นายปัญญา ดลพิทักษ์ หุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์เบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า ตัวแทนฝ่ายขายของโจทก์ที่ให้เครดิตแก่ลูกค้าผู้เช่าซื้อสินค้าของโจทก์โดยไม่เก็บเงินดาวน์จากลูกค้าทั้งหมดคงเก็บเพียงบางส่วนมีหน้าที่ตามเก็บเงินดาวน์ส่วนที่เหลือจากลูกค้ามาส่งมอบให้โจทก์ภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไปเพื่อคิดบัญชีกันในวันที่ 10 ของเดือนถัดไปนั้น พยานจะหัก เงินดาวน์ ซึ่งตัวแทนฝ่ายขายมีหน้าที่รับผิดชอบและนำมาส่งมอบให้ไม่ได้ภายในวันที่ 5ของแต่ละเดือนออกจากยอดรายได้ของตัวแทนฝ่ายขาย คำเบิกความของพยานโจทก์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ในกรณีที่จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายขายมิได้เก็บเงินดาวน์ทั้งหมดจากลูกค้าที่เช่าซื้อสินค้าจากโจทก์ โดยเก็บเงินดาวน์มาเพียงบางส่วนและให้ลูกค้าชำระเงินดาวน์ส่วนที่เหลือในภายหลังนั้น โจทก์ให้จำเลยทั้งสองเป็นผู้รับผิดชอบเงินดาวน์ส่วนที่เหลือเองโดยหากจำเลยทั้งสองยังมิได้นำเงินดาวน์สวนที่เหลือมาชำระให้โจทก์ภายในวันที่ 5ของเดือนถัดไป โจทก์ก็จะนำเงินดาวน์ที่เหลือดังกล่าวมาหักออกจากยอดรายได้ของจำเลยทั้งสองในการคิดบัญชีของโจทก์และจำเลยทั้งสองในวันที่ 10 ของเดือนนั้น ดังนั้นแม้จำเลยทั้งสองเก็บเงินดาวน์ส่วนที่เหลือจากลูกค้าเป็นจำนวนตามฟ้องแล้ว ยังไม่นำเงินจำนวนดังกล่าวไปส่งมอบให้โจทก์ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2534 และไม่มาคิดบัญชีประจำเดือนกับโจทก์ในวันที่ 11 ธันวาคม 2534 การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวก็เป็นเพียงการผิดสัญญาซึ่งโจทก์ชอบที่จะไปว่ากล่าวทางแพ่งแก่จำเลยทั้งสองต่อไป ไม่เป็นความผิดฐานยักยอก
พิพากษายืน