คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2958/2545

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ตามสำเนาบันทึกที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 ทำขึ้นมีข้อความว่า โจทก์ได้รับเช็คของบริษัท พ. จากจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 นำมามอบชำระค่าสินค้าให้แก่โจทก์จึงเป็นการชำระหนี้โดยจำเลยที่ 1 แม้จะชำระด้วยเช็คของบริษัท พ. ก็ไม่ถือว่าบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ชำระหนี้ กรณีถือได้ว่าจำเลยทั้งสองรับสภาพหนี้ต่อโจทก์ตามสิทธิเรียกร้องโดยทำเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ อายุความจึงสะดุดหยุดลง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด เดิมใช้ชื่อว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดควอลลิตี้ไฟเบอร์ มีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยที่ 1 ซื้อสินค้าประเภทเคมีภัณฑ์ไปจากโจทก์ในวันที่ 8 กันยายน 2537 เป็นเงิน 114,871.78 บาท วันที่29 กันยายน 2537 เป็นเงิน 124,473.10 บาท และวันที่ 13 ตุลาคม 2537 เป็นเงิน86,721.92 บาท จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระราคาสินค้าภายใน 90 วัน นับแต่วันซื้อสินค้าต่อมาวันที่ 29 พฤษภาคม 2539 จำเลยทั้งสองนำเช็คของบริษัทพงวดี คอนสตรัคชั่นกรุ๊ป จำกัด ลูกหนี้ของจำเลยที่ 1 มาชำระหนี้แก่โจทก์บางส่วน แต่เรียกเก็บเงินตามเช็คดังกล่าวไม่ได้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงิน 400,149.68 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 326,006.80 บาท (ที่ถูก 326,066.80 บาท) นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนด 2 ปี นับแต่ส่งมอบสินค้าคดีโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 278,677.69 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 67,482.67 บาท 124,473.10 บาท และ86,721.92 บาท นับแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2537 วันที่ 29 ธันวาคม 2537 และวันที่13 มกราคม 2538 ตามลำดับจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของจำเลยทั้งสองมีว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ จำเลยทั้งสองฎีกาว่า สำเนาบันทึกการรับเช็คตามเอกสารหมาย จ.6 ไม่เป็นการรับสภาพหนี้ เพราะจำเลยที่ 1 มิใช่ผู้ชำระหนี้ แต่บริษัทพงวดี คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ชำระหนี้ด้วยความยินยอมของโจทก์ เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเกิน 2 ปี นับแต่ส่งมอบสินค้า คดีจึงขาดอายุความนั้น เห็นว่า ตามสำเนาบันทึกเอกสารหมาย จ.6 ซึ่งทำขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2539 มีข้อความว่า โจทก์ได้รับเช็คของบริษัทพงวดี คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด จากจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 นำมามอบชำระค่าสินค้าให้แก่โจทก์ จึงเป็นการชำระหนี้โดยจำเลยที่ 1 แม้จะชำระด้วยเช็คของบริษัทพงวดี คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด ก็ไม่ถือว่าบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ชำระหนี้ กรณีถือได้ว่าจำเลยทั้งสองรับสภาพหนี้ต่อโจทก์ตามสิทธิเรียกร้องโดยทำเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ให้เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2539 อายุความจึงสะดุดหยุดลง ระยะเวลาที่ล่วงไปก่อนนั้น ไม่นับเข้าในอายุความ โดยให้เริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่เวลานั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/14(1) และ 193/15 เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2541 ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2539คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยทั้งสองทุกข้อฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share