คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2958/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ตกลงจะแบ่งที่พิพาทให้จำเลยครึ่งหนึ่ง เพื่อตอบแทนการที่จำเลยเข้าถากถางที่พิพาท และปลูกไม้ยืนต้นจนให้ผล ข้อตกลงดังกล่าว แม้จะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 อันเป็นเหตุให้สิทธินั้นไม่บริบูรณ์เป็นทรัพยสิทธิ แต่ก็ถือว่าเป็นบุคคลสิทธิจำเลยอาจยกสิทธินั้นขึ้นยันโจทก์ ซึ่งเป็นคู่สัญญาได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยถอนคำคัดค้านการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่พิพาท หากจำเลยไม่ถอนคำคัดค้าน ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาท ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ฟังได้ว่าโจทก์ตกลงจะแบ่งที่พิพาทให้จำเลยครึ่งหนึ่งเพื่อตอบแทนเข้าถากถางที่พิพาทและปลูกไม้ยืนต้นให้ผลดังที่จำเลยนำสืบต่อสู้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าว แม้จะมิได้เป็นหนังสือและจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 อันเป็นเหตุให้สิทธินั้นไม่บริบูรณ์เป็นทรัพย์สิทธิแต่ก็ถือได้ว่าเป็นบุคคลสิทธิ จำเลยอาจถอนสิทธิ จำเลยอาจยกสิทธินั้นขึ้นยันโจทก์ซึ่งเป็นคู่สัญญาไว้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทดังคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ซึ่งต้องความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังขึ้น ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของจำเลยอีกต่อไป

พิพากษากลับคำพิพากษาอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และฎีกาแทนจำเลยโดยกำหนดค่าทนายความทั้งสองศาลเป็นเงิน 1,200 บาท”

Share