แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การริบทรัพย์สินอันเนื่องจากการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าไม้ฯโดยเฉพาะของกลางที่เป็นยานพาหนะมีบัญญัติไว้ใน มาตรา 74 ทวิว่า บรรดาเครื่องมือเครื่องใช้ สัตว์พาหนะ ยานพาหนะ หรือเครื่องจักรกลใด ๆ ซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 11,48,54หรือมาตรา 69 ให้ริบเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยมีไม้ยางแปรรูปซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในความครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการกระทำอันเป็นความผิดตาม มาตรา 48 อันเป็นความผิดตลอดเวลาที่จำเลยยังครอบครองไม้แปรรูปนั้นอยู่ จำเลยใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะบรรทุกไม้ดังกล่าวรถยนต์ของกลางจึงเป็นยานพาหนะที่ได้ใช้ในการกระทำความผิด จึงริบได้ตาม มาตรา 74 ทวิ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 7, 48, 73, 74, 74 ทวิ, 74 จัตวา พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5)พ.ศ. 2518 มาตรา 7, 19, 28 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2522 มาตรา 9 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2525มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33 ริบของกลางและจ่ายเงินสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 48, 73, 74, 74 ทวิ, 74 จัตวา ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32, 33 ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 7,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก9 เดือน และปรับ 3,500 บาท โทษจำคุกเห็นสมควรรอไว้มีกำหนด 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ในกรณีที่จำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ของกลางริบ จ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…การริบทรัพย์สินอันเนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มีบัญญัติไว้ในมาตรา 74 และมาตรา 74 ทวิ โดยเฉพาะของกลางที่เป็นยานพาหนะได้มีบัญญัติไว้ในมาตรา 74 ทวิ ว่า “บรรดาเครื่องมือ เครื่องใช้ สัตว์พาหนะยานพาหนะ หรือเครื่องกลใด ๆ ซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 11มาตรา 48 มาตรา 54 หรือมาตรา 69 ให้ริบเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่” คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมีไม้ยางแปรรูป ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามกฎหมาย จำนวน8 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.23 ลูกบาศก์เมตร ไว้ในความครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำอันเป็นความผิดตามมาตรา 48ที่เป็นความผิดตลอดเวลาที่จำเลยยังครอบครองไม้แปรรูปนั้นอยู่จำเลยได้ใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะบรรทุกไม้ดังกล่าวนำไปรถยนต์ของกลางจึงเป็นยานพาหนะที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดจึงอยู่ในข่ายอันจะพึงริบตามมาตรา 74 ทวิ…”
พิพากษายืน.