แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกับพวกผู้เสียหาย การที่จำเลยใช้ขวดแตกแทงผู้เสียหายโดยแรง ที่บริเวณเอวซึ่งภายในประกอบด้วยอวัยวะสำคัญของร่างกาย ทำให้เกิดบาดแผลที่เอวซ้ายลึก 8 เซนติเมตร และ 5 เซนติเมตรทะลุผ่านกล้ามเนื้อภายใน ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายสาหัส และหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจถึงแก่ความตายได้ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐,๒๘๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ จำคุก ๑๒ ปี ลดโทษหนึ่งในสาม คงจำคุก ๘ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยใช้ขวดแตกแทงผู้เสียหายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายสาหัส จำเลยสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกับพวกผู้เสียหายการที่จำเลยใช้ขวดทุบจนแตกแทงผู้เสียหายทำให้มีบาดแผลที่เอวซ้ายแผลที่ ๑ ลึก ๘ เซนติเมตรแผลที่ ๒ ลึก ๕ เซนติเมตร ทะลุผ่านกล้ามเนื้อภายในบาดแผลดังกล่าวหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจถึงแก่ความตายได้ แสดงว่าจำเลยตั้งใจแทงโดยแรง จึงทะลุผ่านกล้ามเนื้อภายใน จำเลยแทงผู้เสียหายที่บริเวณเอว ซึ่งภายในประกอบด้วยอวัยวะสำคัญของร่างกาย ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าผู้เสียหายอาจถึงแก่ความตายได้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.