คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4546/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลแรงงานกลางฟังว่าผู้ร้องและบริษัทจำเลยเป็นนิติบุคคลที่เกี่ยวพันอันเดียวกัน การจัดตั้งบริษัทจำเลยก็เพื่อเชิดบังหน้าต่อทางราชการและบุคคลภายนอก การดำเนินการของบริษัทจำเลยคือการดำเนินกิจการของผู้ร้อง จำเลยเป็นตัวแทนของผู้ร้อง โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยจึงมีสิทธิยึดทรัพย์สินของผู้ร้องซึ่งเป็นตัวการได้ ดังนี้อุทธรณ์ของผู้ร้องที่ว่าเมื่อฟังได้ว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของทรัพย์ดังกล่าว โจทก์ก็ไม่มีสิทธินำยึด การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นตัวแทนเชิดของผู้ร้องเป็นเรื่องนอกประเด็นนั้นผู้ร้องประสงค์ที่จะให้ศาลฎีการับฟังว่าผู้ร้องกับจำเลยมิได้ร่วมกันดำเนินกิจการดังกล่าวโจทก์จึงไม่มีสิทธินำยึดทรัพย์ของผู้ร้อง จึงเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

ย่อยาว

กรณีสืบเนืองจากโจทก์กับจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระเงินแก่โจทก์ ศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุด ต่อมาโจทก์ขอให้ศาลแรงงานกลางออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยหลายรายการ
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้เสีย ขอให้ปล่อยทรัพย์ดังกล่าว
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่าผู้ร้องและจำเลยเป็นนิติบุคคลเดียวกันกรรมการของผู้ร้องและจำเลยเป็นคนเดียวกัน และจำเลยยังมิได้เลิกกิจการขอให้ยกคำร้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าผู้ร้อง จำเลย และบริษัท ๓๕ รีครีเอชั่นจำกัด ต่างเป็นนิติบุคคลเกี่ยวพันกัด การตั้งบริษัทจำเลยและบริษัท ๓๕ รีครีเอชั่น จำกัด เพื่อเชิดบังหน้าและฉ้อฉลบุคคลภายนอก การดำเนินการของจำเลยและบริษัท ๓๕ รีครีเอชั่น ฯ เป็นการดำเนินกิจการของผู้ร้อง จำเลยเป็นตัวแทนของผู้ร้อง โจทก์จึงมีสิทธิยึดทรัพย์สินของผู้ร้องซึ่งเป็นตัวการได้ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ผู้ร้องอุทธรณ์ว่า คดีนี้มีประเด็นเพียงว่า ทรัพย์สินที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้องหรือไม่ เมื่อศาลแรงงานกลางรับฟังว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธินำยึดโดยไม่ต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไป การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นตัวแทนเชิดของผู้ร้องเป็นเรื่องนอกประเด็นซึ่งหากมีจริงก็ควรได้มีการหยิบยกขึ้นพิจารณาในสำนวนเดิม
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางได้วินิจฉัยพยานหลักฐานของโจทก์และผู้ร้องแล้วฟังว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดผู้ร้อง บริษัทจำเลยและบริษัท ๓๕ รีครีเอชั่น จำกัด ต่างเป็นนิติบุคคลที่เกี่ยวพันเป็นอันเดียวกัน การจัดตั้งบริษัทจำเลยและบริษัท ๓๕ รีครีเอชั่น จำกัด ก็เพื่อเป็นการเชิดบังหน้าและฉ้อฉลต่อทางราชการและบุคคลภายนอกการดำเนินการของบริษัทจำเลยและของบริษัท ๓๕ รีครีเอชั่น จำกัด ก็คือการดำเนินกิจการของผู้ร้องหรือแทนผู้ร้อง ดังนั้นอุทธรณ์ของผู้ร้องจึงประสงค์ให้ศาลฎีการับฟังว่า ผู้ร้องกับจำเลยมิได้ร่วมกันดำเนินกิจการดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธนำยึดทรัยพ์ของผู้ร้องอันเป็นข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕๔ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกอุทธรณ์ของผู้ร้อง

Share