แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานการพิมพ์ให้ออกหนังสือพิมพ์ชื่อ “เสียงพิมพ์ไทย” สำหรับกรุงเทพมหานครการที่จำเลยส่งหนังสือพิมพ์ดังกล่าวไปจำหน่ายที่จังหวัดระยองจึงหาจำต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดระยองอีกไม่ส่วนการที่จำเลยใช้ชื่อหนังสือพิมพ์ดังกล่าวว่า”เสียงพิมพ์ไทย” ซึ่งพิมพ์ด้วยตัวอักษรขนาดเล็กแล้วพิมพ์ คำว่า “เสียงระยอง” ไว้ด้วยโดยมีตัวอักษรโตกว่ากันหลายเท่านั้นแม้จะเป็นความผิดก็เป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงชื่อหนังสือพิมพ์โดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งโจทก์มิได้ขอให้ลงโทษเท่านั้นไม่เป็นความผิดฐานเป็นผู้พิมพ์ผู้โฆษณาบรรณาธิการ เจ้าของหนังสือพิมพ์ “เสียงพิมพ์ไทยเสียงระยอง” โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานการพิมพ์ ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 มาตรา 23,24,60
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกับพวกอีก 1 คน เป็นผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาบรรณาธิการ เจ้าของหนังสือพิมพ์ “เสียงพิมพ์ไทย เสียงระยอง” โดยมีเจตนาจะออกตามลำดับเรื่อยไปโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานการพิมพ์แล้วจำเลยที่ 1 กับพวกที่หลบหนีได้บังอาจพิมพ์โฆษณาและจ่ายแจกหนังสือพิมพ์ดังกล่าวฉบับประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2521 มีข้อความพาดหัวอันเป็นเท็จและมีรายละเอียดของข่าวทำให้ประชาชนตื่นตกใจ วิตกกังวลหวาดกลัว ฯลฯขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 23, 24, 60คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 42 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ข้อ 2(6), 3, 5, 6
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2519ข้อ 2(6), ข้อ 5 ลงโทษจำคุกและปรับ โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติว่า จำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานการพิมพ์ให้ออกหนังสือพิมพ์ชื่อ “เสียงพิมพ์ไทย” สำหรับกรุงเทพมหานคร การที่จำเลยที่ 1 ส่งหนังสือพิมพ์ดังกล่าวไปจำหน่ายที่จังหวัดระยอง จึงหาจำต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดระยองอีกไม่ แต่การที่จำเลยที่ 1 ใช้ชื่อหนังสือพิมพ์ดังกล่าวว่า “เสียงพิมพ์ไทย” ซึ่งพิมพ์ด้วยอักษรขนาดเล็ก แล้วพิมพ์คำว่า “เสียงระยอง”ไว้ด้วย โดยมีตัวอักษรโตกว่ากันหลายเท่า ซึ่งแม้จะเป็นความผิดก็เป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงชื่อหนังสือพิมพ์โดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งโจทก์มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานดังกล่าวนี้
พิพากษายืน