แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องคดีโดยใช้ชื่อว่า “บริการขนส่งสิงห์ชัยตาคลี โดยนายเซียมเซีย ชมภู เจ้าของบริการ” เป็นโจทก์ แม้ว่า “บริการขนส่งสิงห์ชัยตาคลี” จะมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่ก็เป็นนามสมญาในทางการค้าของนายเซียมเซีย ชมภู และนายเซียมเซีย ชมภู ได้ฟ้องในนามเจ้าของสมญาดังกล่าว เป็นเรื่องเจ้าของบริการฟ้องในนามบริการซึ่งเป็นบุคคลเดียวกัน จึงมีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ส.ลูกจ้างของจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ขับรถในทางการที่จ้างด้วยความประมาทชนท้ายรถโจทก์ที่ ๑ เสียหาย จำเลยที่ ๓ เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ จึงขอให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การว่า เหตุเกิดขึ้นไม่ใช่เพราะความผิดของ ส. แต่เป็นความผิดของฝ่ายโจทก์ ค่าเสียหายไม่มากดังฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ส.ลูกจ้างจำเลยที่ ๒ เป็นฝ่ายผิด แต่คนขับรถของโจทก์มีส่วนประมาทอยู่ด้วย พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองกึ่งหนึ่ง
โจทก์และจำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ ประมาทฝ่ายเดียว พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสามฎีกาว่า โจทก์ที่ ๑ ไม่ได้เป็นนิติบุคคล ไม่มีอำนาจฟ้องความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทของคนขับรถของโจทก์ฝ่ายเดียว
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บริการขนส่งสิงห์ชัยตาคลีเป็นนามสมญาในทางการค้าของนายเซียมเซีย ชมภู และนายเซียมเซีย ชมภู ได้ฟ้องในนามเจ้าของนามสมญาดังกล่าว ฉะนั้น นายเซียมเซีย ชมภู เจ้าของนามสมญาในทางการค้าจึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความประมาทของ ส.คนขับรถของจำเลยที่ ๒ ฝ่ายเดียวจำเลยทั้งสามต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์
พิพากษายืน