คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ไม่ได้เสียค่าขึ้นศาลที่ให้จำเลยจ่ายมีระยะเวลาในอนาคตในศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นก็ได้วินิจฉัยข้อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในอนาคตให้ในชั้นอุทธรณ์ฎีกาได้มีการปิดแสตมป์ไว้แล้วฎีกาของโจทก์ก็ขอปิดและได้ย้อนปิดเพิ่มเติมสำหรับศาลชั้นต้นไว้ครบถ้วนเหมือนกันศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยคำขอในอนาคตของโจทก์ได้
ในกรณีขับรถยนต์ชนคนตายบิดาของผู้ตายย่อมได้รับค่าสินไหมทดแทนการขาดไร้อุปการะจากผู้ทำละเมิด ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสาม
การสูญเสียบุตรถูกรถยนต์ชนตายนั้น ไม่ต้องด้วยค่าสินไหมทดแทนลักษณะใดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บิดาเรียกร้องไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 1 ได้ให้จำเลยที่ 3 ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 1 และไปชนเอารถจักรยาน 2 ล้อ ซึ่งนายถนอมบุตรโจทก์ขับขี่ล้มลงและถึงแก่ความตายด้วยพิษบาดแผลขอให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทน

จำเลยที่ 2 ขาดนัด จำเลยที่ 1-3 ต่างปฏิเสธความรับผิดตลอดจนค่าสินไหมทดแทน

ศาลแพ่งพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์เป็นเงิน 18,650 บาท และค่าสินไหมทดแทนเดือนละ 400 บาท จนครบ 10 ปี

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์8,650 บาท คำขออื่นให้ยกเสีย

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ค่าสินไหมทดแทนการขาดอุปการะที่จ่ายมีกำหนดเวลาในอนาคตเดือนละ 400 บาท ศาลแพ่งวินิจฉัยข้อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้โดยโจทก์มิได้เสียค่าขึ้นศาลมานั้น ในชั้นอุทธรณ์ฎีกาก็ได้มีการปิดแสตมป์ส่วนนี้ กับในฎีกาโจทก์ก็ขอปิดและได้ย้อนปิดเพิ่มเติมสำหรับชั้นศาลแพ่งไว้ครบถ้วนเหมือนกัน เรื่องค่าขึ้นศาลจึงหมดปัญหา

สำหรับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการขาดไร้อุปการะนั้น ได้มีบทบัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรค 3 ซึ่งโจทก์ควรจะได้รับจำนวนหนึ่งซึ่งศาลแพ่งกำหนดให้เดือนละ 400 บาท จำนวน 10 ปี ชอบแล้ว แต่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการที่บุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย จำนวนหนึ่งหมื่นบาทนั้น ไม่ต้องด้วยค่าสินไหมทดแทนลักษณะใดใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้

พิพากษาแก้ให้จำเลยจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นรายเดือน ๆ ละ 400 บาท จนครบ 10 ปี นอกนั้นยืนตามศาลอุทธรณ์

Share