คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3151/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์อยู่ต่างประเทศ อ้างสิทธิคำว่า HILTON เป็นนามทางการค้าของโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยใช้นามเดียวกันโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 กรณีเช่นนี้หาได้มีกฎหมายจำกัดสิทธิมิให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลในประเทศไทยไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้
จำเลยให้การว่าไม่รับรองและขอปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ เกี่ยวกับการใช้นามทางการค้าตามฟ้อง และต่อสู้ด้วยว่า นามที่จำเลยใช้ไม่ใช่นามเดียวกับโจทก์ จำเลยไม่รับรองและปฏิเสธการเป็นนิติบุคคลและวัตถุประสงค์ของโจทก์ รวมทั้งเรื่องการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีด้วย จึงไม่อาจรับฟังเป็นยุติตามคำฟ้องได้ โจทก์จึงยังมีหน้าที่นำสืบอยู่ ศาลจะวินิจฉัยชี้ขาดให้โจทก์ชนะคดีโดยไม่มีการสืบพยานหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา โจทก์ได้ประกอบกิจการโรงแรมโดยใช้ชื่อ HILTON เรียกขานตามหลังชื่อเมืองต่าง ๆ จนเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเป็นชื่อทางการค้าของโจทก์ จำเลยได้แสดงออกต่อสาธารณชนว่าจะใช้ชื่อฮิลตันเรียกขานโรงแรมของจำเลยโดยปราศจากสิทธิ โจทก์จึงมอบอำนาจให้นายเอนกฟ้องคดีนี้ ขอให้พิพากษาห้ามจำเลยใช้คำว่าHILTON ในการประกอบกิจการค้าประเภทโรงแรมสืบไป
จำเลยให้การว่าโจทก์จะเป็นนิติบุคคลหรือไม่ จะประกอบกิจการโรงแรมโดยใช้ชื่อ HILTON หรือไม่ จำเลยไม่ทราบ ไม่รับรอง และขอปฏิเสธ นามโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ไม่ใช่นามเดียวกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๘ ทั้งกฎหมายมาตรานี้คุ้มครองผู้เสียหายในเขตอำนาจศาลไทยเท่านั้น ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว สั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ห้ามจำเลยทั้งสี่ใช้คำว่า HILTON เป็นชื่อของจำเลยที่ ๑ หรือใช้ในการประกอบกิจการโรงแรมต่อไป
จำเลยทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๘ มุ่งคุ้มครองผู้เสียหายที่อยู่ในประเทศไทยโจทก์อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้นั้นศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์อ้างสิทธิคำว่า HILTON เป็นนามทางการค้าของโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยใช้นามเดียวกันโดยมิชอบตามมาตรา ๑๘ กรณีเช่นนี้หาได้มีกฎหมายจำกัดสิทธิมิให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลในประเทศไทยไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้
มีปัญหาตามฎีกาจำเลยต่อไปว่า การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชี้ขาดให้โจทก์ชนะคดีโดยไม่มีการสืบพยานชอบหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้ออ้างของโจทก์เกี่ยวกับการใช้คำว่า HILTON เป็นนามทางการค้ามานั้น จำเลยให้การไม่รับรองและขอปฏิเสธทั้งให้การต่อสู้ด้วยว่านามที่จำเลยใช้มิใช่นามเดียวกับโจทก์ นอกจากนี้จำเลยให้การไม่รับรองและปฏิเสธการเป็นนิติบุคคลและวัตถุประสงค์ของโจทก์ในเรื่องเหล่านี้ จึงไม่อาจรับฟังเป็นยุติตามคำฟ้องของโจทก์ได้ โจทก์ยังมีหน้าที่นำสืบอยู่ จะวินิจฉัยชี้ขาดให้โจทก์ชนะคดีโดยไม่มีการสืบพยานหาได้ไม่
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share