คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2919/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยมาครั้งหนึ่งแล้วในข้อหาว่ากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นข้อเท็จจริงปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวบุคคลอื่นมาส่งศาลเป็นจำเลยมิใช่จำเลยตัวจริงตามที่โจทก์ฟ้องโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลยกเลิกกระบวนพิจารณาที่ทำไปแล้วและขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่โดยให้นำตัวจำเลยที่แท้จริงเข้ามาเป็นจำเลยศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องและพิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์อุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษา ขณะที่คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์โจทก์กลับนำคดีมาฟ้องจำเลยตัวจริงในข้อหาความผิดอันเดียวกันนั้นอีกฟ้องโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา173 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับโอนเช็คซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายมาจากนายหย่งสองฉบับ เมื่อเช็คทั้งสองฉบับถึงกำหนดชำระโจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีของโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสองฉบับ โดยให้เหตุผลว่าบัญชีปิดแล้ว ทั้งนี้จำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ฯลฯ โจทก์ได้ฟ้องคดีตามเช็คทั้งสองฉบับนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่นายชานนท์ผู้ถูกจับที่เข้ามาต่อสู้คดีมิใช่จำเลยที่แท้จริง ทั้งนี้เพราะโจทก์รู้จักนายพูนศักดิ์จำเลยที่แท้จริงแต่ชื่อไม่รู้จักตัว และนายชานนท์กับนายพูนศักดิ์เปิดบัญชีไว้ที่ธนาคารแห่งเดียวกันและใช้ตำบลที่อยู่เดียวกัน ทำให้โจทก์เข้าใจผิด โจทก์เพิ่งรู้จักตัวนายพูนศักดิ์จำเลยที่แท้จริงเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2523 ขณะที่นายพูนศักดิ์มาเป็นพยานให้กับนายชานนท์ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ จึงให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในสำนวนว่า เดิมที่โจทก์ฟ้องจำเลยมาครั้งหนึ่งแล้ว และระบุชื่อนายพูนศักดิ์หรือชานนท์หรือเกี้ยมฮง แซ่ตัน หรือโอภานุรักษ์หรือแซ่ตั้ง ขณะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ปรากฏว่าผู้ที่ตำรวจจับกุมตัวส่งศาลตามหมายจับของศาล คือ นายชานนท์ แซ่โอ๋ว หรือโอภานุรักษ์ มิใช่จำเลยผู้ออกเช็คตามที่โจทก์ฟ้อง โจทก์จึงยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณากับนายพูนศักดิ์จำเลยตัวจริงต่อไป โจทก์ยินดีจะถอนฟ้องนายชานนท์ผู้ถูกจับ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง โจทก์ยื่นคำร้องอีกฉบับหนึ่งขอให้ศาลยกเลิกกระบวนพิจารณาที่ทำไปแล้วและสั่งให้พิจารณาใหม่โดยสั่งให้นำตัวนายพูนศักดิ์จำเลยที่แท้จริงมาเป็นจำเลยและดำเนินคดีต่อไป ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องและวินิจฉัยว่า จำเลยมิใช่ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาและยกเลิกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่กับนายพูนศักดิ์ ซึ่งเป็นจำเลยที่แท้จริง ขณะที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์นำเรื่องเดียวกันนั้นมาฟ้องนายพูนศักดิ์เป็นจำเลยในคดีนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเมื่อโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีกับนายพูนศักดิ์จำเลยที่แท้จริงในคดีก่อนอยู่ โจทก์ก็ต้องห้ามมิให้นำเรื่องเดียวกันนั้นมาฟ้องนายพูนศักดิ์เป็นจำเลยในคดีนี้อีก ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

พิพากษายืน

Share