คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3168/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อพยานหลักฐานฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ตกลงว่าจ้างโจทก์ตามสัญญา จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าจ้างให้โจทก์ตามสัญญานั้น แต่โดยเหตุที่ โจทก์ได้ทำงานให้จำเลยและจำเลยได้ยอมรับเอาผลงานดังกล่าวเป็น ประโยชน์แก่ตนแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิรับสินจ้างตามผลแห่งการงาน ที่ได้กระทำไปแล้ว ซึ่งศาลกำหนดให้ได้ตามสมควร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ทั้งสองให้ร่วมกันเป็นทนายความ ให้จำเลยเป็นโจทก์ฟ้องนายวิรัชเรื่องฉ้อโกง ฯลฯ โดยสัญญาให้ค่าจ้างแก่ โจทก์เป็นเงิน ๒๑๘,๗๕๐ บาท จะชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์ เมื่อจำเลย ยอมความกับนายวิรัชได้หรือเมื่อคดีถึงที่สุดเสร็จเด็ดขาด โจทก์ได้ฟ้องนายวิรัช เป็นจำเลยต่อศาลอาญา คดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลย ชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยว่าจ้างโจทก์ทั้งสองให้เป็นทนายให้และ ต่อสู้ในข้ออื่นอีกหลายประการ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยได้จ้างโจทก์ให้เป็นทนายความจริง พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๒๑๘,๗๕๐ บาทแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ตกลงว่าจ้าง โจทก์ตามสัญญาหมาย จ. ๑ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าจ้างให้โจทก์ตาม สัญญาดังกล่าวแต่โดยเหตุที่โจทก์ทั้งสองได้ทำงานให้จำเลย และจำเลย ก็ได้ยอมรับเอาผลงานดังกล่าวเป็นประโยชน์แก่ตนแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิได้รับ สินจ้างตามผลแห่งการงานที่ได้กระทำไป เมื่อพิเคราะห์ผลงานของโจทก์ ที่ได้กระทำไปแล้ว เห็นควรกำหนดสินจ้างให้โจทก์ ๑๐,๐๐๐ บาท
พิพากษาแก้ ให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์ทั้งสอง ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย

Share