คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2910/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ส. ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและบ้านอันเป็นสินสมรสของโจทก์และ ส. ให้กับจำเลยแล้วผิดสัญญา จำเลยจึงฟ้องเรียกเบี้ยปรับและมัดจำคืน ส. ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลยอมชำระเบี้ยปรับและคืนเงินมัดจำให้จำเลย ดังนี้ สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและบ้านได้ระงับไปแล้วด้วยผลแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852โจทก์ซึ่งเป็นสามี จะฟ้องขอให้เพิกถอนมิได้ ส่วนสัญญาประนีประนอมยอมความก็เป็นนิติกรรมเกี่ยวกับหนี้เงิน มิได้ทำขึ้นเพื่อผูกพันสินสมรสโดยเฉพาะ จึงมิใช่เป็นการจัดการสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1476, 1477 และ 1480 โจทก์ซึ่งเป็นสามีจะฟ้องขอให้เพิกถอนมิได้เช่นเดียวกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นสามีของนางสว่าง นางสว่างกับนายภูมิรัตน์ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ๑ แปลงพร้อมบ้านหนึ่งหลังอันเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์และนางสว่างให้กับจำเลยจำเลยได้วางมัดจำและชำระหนี้บางส่วนแล้ว แล้วคู่สัญญาตกลงกันเพิ่มเติมสัญญาว่าผู้จะขายขอเลื่อนการส่งมอบบ้านและที่ดินออกไป ๓ เดือนหากผิดสัญญายอมให้ผู้จะซื้อปรับ ต่อมาจำเลยฟ้องนายสว่างและนายภูมิรัตน์ให้คืนเงินมัดจำและใช้เบี้ยปรับตามสัญญาดังกล่าว นางสว่างทำสัญญาประนีประนอมยอมความยอมใช้เงิน ๒๙๐,๐๐๐ บาทแก่จำเลยแล้วไม่ปฏิบัติตามสัญญาเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดบ้านของโจทก์อ้างว่าเป็นของนางสว่าง โจทก์ร้องขัดทรัพย์ เมื่อโจทก์และนางสว่างยังเป็นสามีภริยากันอยู่ การที่นางสว่างทำสัญญาจะซื้อขายและสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ จึงขัดต่อกฎหมายและเป็นโมฆะขอให้เพิกถอนสัญญาจะซื้อจะขายและสัญญาประนีประนอมยอมความ
จำเลยให้การว่า โจทก์ให้ความยินยอมในการทำสัญญาจะซื้อแล้ว สัญญาจะซื้อจะขายจึงสมบูรณ์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับนางสว่างในศาล เป็นการกระทำด้วยความสมัครใจ โจทก์ขอเพิกถอนมิได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและบ้านซึ่งเป็นสินสมรสตามฟ้องนั้นได้ระงับไปแล้วด้วยผลแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๕๒ โจทก์ไม่จำต้องฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนอีก ส่วนสัญญาประนีประนอมยอมความตามฟ้องนั้น ปรากฏว่านางสว่างเพียงยินยอมชดใช้เงิน ๒๙๐,๐๐๐ บาทแก่จำเลย เป็นนิติกรรมเกี่ยวกับหนี้เงิน มิได้ทำขึ้นเพื่อผูกพันสินสมรสโดยเฉพาะ จึงหาใช่เป็นการจัดการสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา๑๔๗๖, ๑๔๗๗ และ ๑๔๘๐ ไม่ โจทก์จะฟ้องขอให้เพิกถอนไม่ได้เช่นเดียวกัน
พิพากษายืน.

Share