แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยอยู่บ้านเลขที่ 152/6ถนนเจริญนคร แขวงบุคคโลเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บางส่วนในที่ดินโฉนดเลขที่ 1266 และ 3751แขวงบุคคโลเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร จำเลยได้อยู่อาศัยในบ้านเลขที่ดังกล่าวโดยปลูกอยู่บนที่ดินของโจทก์ทั้งสองแปลงนี้โดยจำเลยและสามีจำเลยขออนุญาตจากโจทก์และเจ้าของร่วม ต่อมาจำเลยยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้ามาอาศัยในบ้านดังกล่าว โจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกจากที่ดินของโจทก์ แต่จำเลยก็เพิกเฉยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เป็นการบรรยายโดยแจ้งชัดซึ่งสถานแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ส่วนบ้านเลขที่ 152/6 เป็นบ้านตึกหรือบ้านไม้ มีความกว้างยาวและเนื้อที่เท่าใดนั้น เป็นรายละเอียดที่ไม่จำต้องบรรยายในฟ้องทั้งจำเลยก็อาศัยในบ้านดังกล่าวย่อมรู้รายละเอียดดังกล่าวได้ดีอยู่แล้ว ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บางส่วนในที่ดินโฉนดเลขที่ 1266 และ 3751 แขวงบุคคโล (บางยี่เรือ) เขตธนบุรี (บางกอกใหญ่) กรุงเทพมหานคร จำเลยและสามีได้ขออนุญาตปลูกบ้านเลขที่ 152/6 อยู่อาศัย ในที่ดินตามโฉนดทั้งสองแปลงและให้บุคคลภายนอกเข้าอยู่อาศัย โดยส่งเสียงเอะอะสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่โจทก์ โจทก์แจ้งให้จำเลยรื้อถอนบ้านเรือนดังกล่าวออกจากที่ดินทั้งสองแปลงนี้แล้ว แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยออกไปจากที่ดินของโจทก์ พร้อมทั้งรื้อถอนบ้านเลขที่152/6 ถนนเจริญนคร แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ออกไปจากที่ดินทั้งสองแปลง หากจำเลยไม่รื้อถอนให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนเองโดยให้จำเลยเสียค่าใช้จ่ายและให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้โจทก์
จำเลยให้การว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมเพราะมิได้บรรยายให้เห็นชัดแจ้งถึงสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ว่า จำเลยปลูกบ้านเลขที่เท่าใด กว้างยาวเป็นเนื้อที่เท่าใด ตั้งอยู่บนที่ดินโจทก์อ้างว่าเป็นของโจทก์แค่ไหน อย่างไร ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 1266 และ3751 โดยรื้อถอนบ้านเลขที่ 152/6 ออกไปจากที่ดินของโจทก์ทั้งสองแปลงและให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อแรกว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์มิได้แสดงให้ชัดแจ้งว่า จำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์อย่างไร จำเลยปลูกบ้านเลขที่เท่าใด กว้างยาวเป็นเนื้อที่เท่าใดเป็นบ้านตึก บ้านไม้ หรือมีสภาพอย่างไร โดยอาศัยสิทธิใด หรือในการละเมิดสิทธิของโจทก์มาตั้งแต่เมื่อใด อย่างไร หรือจำเลยมีนิติสัมพันธ์ใดกับโจทก์ ได้พิเคราะห์คำฟ้องของโจทก์แล้ว โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยอยู่บ้านเลขที่ 152/6 ถนนเจริญนครแขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บางส่วนในที่ดินโฉนดเลขที่ 1266 และ 3751 แขวงบุคคโล(บางยี่เรือ) เขตธนบุรี (บางกอกใหญ่) กรุงเทพมหานคร จำเลยได้อยู่อาศัยในบ้านเลขที่ดังกล่าวในฟ้องโดยปลูกอยู่บนที่ดินของโจทก์ทั้งสองแปลงนี้โดยจำเลยและสามีจำเลยขออนุญาตจากโจทก์และเจ้าของร่วม ต่อมาจำเลยยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้ามาอยู่อาศัยในบ้านดังกล่าว ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่โจทก์และเจ้าของร่วม โจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกจากที่ดินของโจทก์ ตามหนังสือบอกกล่าวและใบตอบรับ เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข3 และ 4 ตามลำดับ แต่จำเลยก็เพิกเฉยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายจากคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าว เห็นได้ว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องเป็นที่เข้าใจได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของร่วมในที่ดินโฉนดเลขที่ 1266และ 3751 จำเลยและสามีได้ขออนุญาตโจทก์และเจ้าของร่วมคนอื่นปลูกบ้านเลขที่ 152/6 ลงบนที่ดินดังกล่าว ต่อมาโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยอาศัยอีกต่อไป จึงมีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไป จำเลยทราบแล้วเพิกเฉย จึงฟ้องบังคับให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไปจากที่ดินของโจทก์ อันเป็นการบรรยายโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้วส่วนที่โจทก์มิได้บรรยายว่าบ้านเลขที่ 152/6 เป็นบ้านตึกหรือบ้านไม้ มีความกว้างยาวและเนื้อที่เท่าใดนั้น เห็นว่าเป็นรายละเอียดที่ไม่จำต้องบรรยายในฟ้อง ทั้งจำเลยก็อยู่อาศัยในบ้าน ดังกล่าวย่อมรู้รายละเอียดดังกล่าวได้ดีอยู่แล้ว ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้แต่อย่างใด ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม”
พิพากษายืน