แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่หาว่า จำเลยกระทำผิดฐานไม่ปิดป้ายแสดงราคาฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการฯ และหาว่า จำเลยขายของเกินราคาควบคุม ซึ่งเจ้าพนักงานจับของกลางรวมกันมานั้น ศาลต้องแยกพิเคราะห์ดูว่า ของกลางสิ่งใดจำเลยได้ขายเกินราคาควบคุม และศาลคงริบได้ฉะเพาะสิ่งของที่หาว่า จำเลยขายเกินราคาควบคุมอันเป็นการค้ากำไรเกินควรโดยตรงเท่านั้น ส่วนสิ่งของที่หาว่าจำเลยกระทำผิดฝ่าฝืนประกาศฯ ไม่เป็นของจะพึงริบ ให้คืนไป
ย่อยาว
ได้ความตามโจทก์หาจำเลยให้การรับสารภาพว่า จำเลยขายไข่เป็ดจืดไม่ปิดป้ายแสดงราคา ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการฯ และจำเลยได้ขายไข่เป็ดจืดให้ผู้มีชื่อไป ๖ ฟองเป็นเงิน ๒ บาท ๑๐ สตางค์เกินราคาควบคุมไป ๓๐ สตางค์ เจ้าพนักงานตำรวจจับได้พร้อมด้วยไข่เป็ดจืด ๒๑ ฟองเป็นของกลาง
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นที่พิพากษาปรับจำเลย ๑๕๐ บาท โดยลดกึ่งหนึ่งแล้วตามพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร ๒๔๙๐ มาตรา ๑๗,๑๘ ริบของกลาง ส่วนที่โจทก์ขอให้จ่ายรางวัลผู้จับให้ยก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พ.ร.บ. ป้องกันการค้ากำไรเกินควร ๒๔๙๐ หาได้บัญญัติให้ยกเลิกเงินรางวัลผู้จับตาม พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด ๒๔๘๙ โจทก์ยังมีอำนาจขอให้จ่ายรางวัล (ฎีกาที่ ๑๙๓๓/ ๒๔๙๒)
ส่วนไข่ ๑๕ ฟอง ซึ่งศาลทั้งสองให้รวมริบด้วยนั้น ไม่เป็นของที่จะพึงริบได้ตามนัยฎีกาที่ ๒๐๑/๒๔๙๓
พิพากษาแก้ ให้จ่ายเงินรางวัลผู้จับร้อยละ ๒๐ ของราคาของกลาง หรือค่าปรับ ส่วนไข่เป็ด ๑๕ ฟองนั้นให้คืนไป