แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
3 คนไปลักทรัพย์ด้วยกันคนหนึ่งเงื้อมีดขู่เจ้าทรัพย์ที่ติดตามมา เมื่อ 2 คนหนีไปแล้วเช่นนี้ ยังไม่มีผิดฐานปล้น
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยทั้ง ๓ คนสมคบกันไปลักเรือเขาคนละลำ ครั้นพวกเจ้าทรัพย์ไล่ตามมา อ.ป.จำเลยทิ้งเรือหนีไป แต่ ย.ยังไม่หนีพอเจ้าทรัพย์ไล่จวนทัน ย.จำเลยยกตามขึ้นทำท่าจะฟัน แต่แล้วก็ทิ้งเรือกะโดดหนีไป
ศาลเดิมตัดสินว่าจำเลยมีผิดฐานปล้นทรัพย์ตาม ม.๓๐๑ ให้จำคุกคนละ ๑๐ ปี
อธิบดีแย้งว่า ย.ขู่เจ้าทรัพย์เพื่อประโยชน์ของตนเอง อ.ป.มิได้ช่วยเหลืออย่างใด ควรลงโทษ ย.ตาม ม.๒๙๙ ประกอบด้วย ม.๒๙๓ ข้อ ๗-๑๑ ควรจำคุก ๓ ปี ส่วน อ.ป.มีผิดตาม ม.๒๙๓ ข้อ ๗-๑๑ จำคุกคนละ ๒ ปี
ศาลอุทธรณ์ตัดสินแก้ศาลเดิมให้ลงโทษจำเลยตามความเห็นแย้งของอธิบดี
โจทก์ฎีกาว่ากิริยาของจำเลยเข้าเกณฑ์ปล้นตาม ม.๓๐๑
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อ ย.ยกดาพขึ้นขู่เจ้าทรัพย์นั้น อ.ป.ได้หนีไปเสียก่อนแล้วมิได้ช่วยเหลือการกระทของ ย.ประการใด แม้จำเลยจะได้สมคบกันมาลักทรัพย์แต่แรกก็ดี อ.ป.ก็ยังไม่ควรต้องรับผลต่อการกระทำในตอนหลังของ ย.ด้วย จึงตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์