คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2896/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12 (1) มีความหมายว่า ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับด้วยหาใช่ลงโทษจำคุกและปรับเฉพาะแต่ผู้จัดให้มีการเล่นเท่านั้นไม่ เพียงแต่มีข้อยกเว้นว่าถ้าผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่เรียกว่าลูกค้าจะลงโทษปรับอย่างเดียวก็ได้ซึ่งเป็นโทษที่เบากว่า จำเลยเป็นผู้เข้าเล่นการพนันอันเป็นความผิดตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวที่เรียกว่าเจ้ามือ ไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะลงโทษปรับอย่างเดียวได้ต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกรวม ๔ คนได้ร่วมกันเล่นการพนันป๊อก อันเป็นการพนันตามบัญชี ก. หมายเลย ๑๑ ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ โดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๑๒ พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้องปรับ ๑,๐๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงปรับ ๕๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา ๒๙, ๓๐
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๓ แล้วเห็นว่า ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับด้วย หาใช่ลงโทษจำคุกและปรับเฉพาะแต่ผู้จัดให้มีการเล่นไม่ เพียงแต่ข้อยกเว้นว่าผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่เรียกว่าลูกค้าจะลงโทษปรับอย่างเดียวก็ได้ ซึ่งเป็นโทษที่เบากว่าจำเลยนี้เป็นผู้เข้าเล่นการพนันอันเป็นความผิดตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวที่ไม่ใช่เรียกว่าลูกค้า เรียกว่าเจ้ามือไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะลงโทษปรับอย่างเดียวได้ จึงต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับอีกสถานหนึ่ง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลย ๔ เดือนอีกสถานหนึ่งจำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุก ๒ เดือน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์

Share