คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2883/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดเวลาแล้ว โดยอ้างเหตุผลว่าเพิ่งจะขอยืมเงินจากผู้อื่นได้ เมื่อพ้นเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์และรับอุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปกับรื้อถอนบ้านออกจากที่ดินดังกล่าว หากไม่รื้อ โจทก์ขอรื้อถอนเองโดยให้จำเลยออกค่าใช้จ่าย

จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาท โดยให้รื้อถอนบ้านออกไปด้วย ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนด ค่าทนายความ 5,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์ และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา

ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์เป็นเงิน 2,500 บาท ค่าธรรมเนียมนอกจากนี้ยกเว้นให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถา โดยให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมศาลดังกล่าวมาชำระภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 25 กรกฎาคม 2540จำเลยยื่นคำแถลงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2540 ขออนุญาตชำระเงินค่าธรรมเนียม ศาลชั้นต้นสั่งว่ามีเหตุอันสมควรอันเป็นเหตุสุดวิสัยเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมอนุญาต แล้วมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลย

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์2,500 บาท แก่จำเลย

จำเลยฎีกา โดยได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในเบื้องต้นว่าคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์และรับอุทธรณ์ของจำเลยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2540 ว่า ให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์เป็นเงินจำนวน 2,500 บาท ค่าธรรมเนียมนอกจากนี้ยกเว้นให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาได้โดยให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาชำระภายใน 30 วัน ตามคำสั่งดังกล่าวนี้ วันครบกำหนดที่จำเลยจะต้องวางค่าธรรมเนียมศาลคือวันที่ 25 กรกฎาคม 2540แต่ปรากฏว่าเมื่อครบกำหนดจำเลยไม่ได้วางค่าธรรมเนียมศาล จำเลยมายื่นคำร้องขอวางเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวในวันที่ 28 กรกฎาคม 2540ซึ่งตามเหตุผลในคำร้องฉบับลงวันที่ดังกล่าวพอถือได้ว่าเป็นคำร้องขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ตามบทบัญญัติดังกล่าว จำเลยจะต้องยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการวางค่าธรรมเนียมศาลภายในกำหนดเวลาคือวันที่ 25 กรกฎาคม2540 หากพ้นกำหนดจำเลยจะสามารถยื่นคำร้องได้ต่อเมื่อมีเหตุสุดวิสัยฉะนั้นเมื่อจำเลยยื่นคำร้องนี้เมื่อพ้นกำหนดเวลาแล้ว และเหตุผลตามคำร้องที่อ้างว่าเพิ่งจะขอยืมเงินจากผู้อื่นได้เมื่อพ้นเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดแล้วถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์และรับอุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยบทกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยนั้นชอบแล้ว ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่น ๆของจำเลยเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง

พิพากษายืน

Share