แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อผู้เช่าซื้อผิดสัญญาเช่าซื้อ และผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาแล้ว นอกจากมีสิทธิริบเงินค่าเช่าซื้อที่ชำระไว้แล้ว ผู้ให้เช่าซื้อยังมีสิทธิฟ้องเรียกเงินค่าเช่าซื้อที่ผู้เช่าซื้อยังค้างชำระอยู่ก่อนเลิกสัญญาได้ (อ้างฎีกาที่ 691/2501)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เช่าซื้อรถยนต์ ๑ คันจากจำเลย ต่อมาจำเลยเอารถยนต์นั้นไป โจทก์จึงบอกเลิกสัญญา และขอให้จำเลยคืนเงินค่าเช่าซื้อและใช้ค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา ย่อมมีสิทธิริบเงินที่โจทก์ชำระไว้แล้วได้ และฟ้องแย้งเรียกค่าเช่าซื้อที่ยังค้างชำระก่อนเลิกสัญญา ๓ เดือน
ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเช่าซื้อ และผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อเพียง ๒ งวด จึงพิพากษายกฟ้อง และให้โจทก์ชำระเงินที่ค้าง ๒ งวดแก่จำเลย
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นชอบด้วยกับข้อที่ให้ยกฟ้อง แต่เห็นว่าจำเลยไม่มีสิทธิฟ้องแย้งเรียกค่าเช่าซื้อที่ยังค้างชำระเพราะมีสิทธิริบเอาเงินที่ชำระไว้แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๗๘ พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องแย้ง
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเช่าซื้อ ที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องของโจทก์ชอบแล้ว ส่วนที่จำเลยฎีกาตามฟ้องแย้งนั้น เห็นว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องรับผิดใช้เงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระตามสัญญาเช่าซื้อ อ้างฎีกาที่ ๖๙๑/๒๕๐๑ จึงพิพากษาแก้ ให้โจทก์ชำระค่าเช่าซื้อ ๒ งวดที่ค้าง.