แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาแก้คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำคุกผู้กระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นว่าให้รอการลงโทษผู้กระทำผิด ผู้กระทำผิดยังคงถูกพิพากษาลงโทษจำคุก แต่รอการลงโทษไว้ มิใช่ให้ปล่อยผู้กระทำผิด กรณีไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. 2498 มาตรา 11 (7) พนักงานอัยการฎีกาไม่ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๔๔ นายศราวุธ กิติพรพงษ์สุข ทนายความซึ่งได้รับใบอนุญาตเลขที่ ๕๘๓/๒๕๓๙ ผู้ถูกกล่าวหา ได้ยื่นคำร้องและใบมอบฉันทะโดยปลอมแปลงลายมือชื่อของนายชาญวุฒิ จันทร์พิลา ทนายความจำเลยที่ ๑ ที่ ๓ และที่ ๔ ขอเลื่อนการพิจารณาคดี
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นการละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๑ (๑) และมาตรา ๓๓ ให้จำคุก ๒ เดือน
ผู้ถูกกล่าวหาอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษผู้ถูกกล่าวหาไว้ ๑ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น
พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่พนักงานอัยการฎีกาขอให้ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาตามคำสั่งศาลชั้นต้นนั้น เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๑๑ (๗) บัญญัติว่า ในคดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษบุคคลใดโดยลำพัง ถ้าศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ปล่อยผู้นั้น เมื่อพนักงานอัยการเห็นสมควรจะฎีกาก็ได้ แต่ในคดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกผู้ถูกกล่าวหาว่า ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นการละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๑ (๑) และมาตรา ๓๓ ให้จำคุก ๒ เดือน ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษผู้ถูกกล่าวหาไว้ ๑ ปี ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการยื่นฎีกาตามพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๑๑ (๗) และพนักงานอัยการได้ยื่นฎีกาขอให้ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาตามคำสั่งศาลชั้นต้นนั้น พนักงานอัยการจะฎีกาได้เฉพาะในกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ได้พิพากษาให้ปล่อยผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น สำหรับคดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาแก้เป็นว่าให้รอการลงโทษผู้ถูกกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหายังคงถูกพิพากษาลงโทษจำคุก ๒ เดือน แต่รอการลงโทษไว้ มิใช่เป็นการปล่อยผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด กรณีไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๑๑ (๗) พนักงานอัยการฎีกาไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาของพนักงานอัยการมานั้นไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกา.