แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยนำรถยนต์ตู้มาแล่นรับส่งคนโดยสารเพื่อสินจ้างอันมีลักษณะเป็นการประกอบการขนส่งประจำทางในเส้นทางที่บริษัทขนส่ง จำกัด ได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งประจำทางนั้น เมื่อปรากฏว่ารถยนต์ของจำเลยดังกล่าวเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินสิบสองคน ซึ่งมีพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 5(2) บัญญัติไว้ว่าเป็นรถยนต์ที่ไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยประกอบการขนส่งประจำทาง โดยใช้รถยนต์ตู้รับส่งคนและสิ่งของ โดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๓, ๑๒๖
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามฟ้อง ลงโทษปรับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า รถคันที่จำเลยขับเป็นรถยนต์ประเภทรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งจดทะเบียนต่อกองทะเบียนยานพาหนะ กรมตำรวจ ไม่ใช่รถยนต์ที่ได้จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ และตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕ ซึ่งแก้ไขโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้บัญญัติว่า พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่ ฯลฯ
(๒) การขนส่งโดยรถยนต์รับจ้างที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัดที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์บริการที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินสิบสองคน ฯลฯ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่ารถคันที่จำเลยขับเป็นรถที่ไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ดังนั้น ถึงแม้ว่าจำเลยจะได้ใช้รถคันดังกล่าวในการประกอบการขนส่งประจำทางโดยเก็บค่าขนส่ง อันมีลักษณะเป็นการขนส่งเช่นเดียวกับบริษัทขนส่ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งในเส้นทางสายที่จำเลยประกอบการขนส่งก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดตาม มาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ เพราะรถคันที่จำเลยขับนั้นเป็นรถที่ไม่ได้อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง