แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งจำเลยมิได้ยกปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นว่า ในศาลชั้นต้นเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องถือว่าข้อเท็จจริงนั้นไม่ปรากฏในสำนวน ปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกาจึงไม่เกิดขึ้น ศาลฎีการับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 195 ประกอบด้วย มาตรา 225
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบหมายจากสหกรณ์การเกษตรเมืองสุพรรณบุรีให้เป็นหัวหน้างานฝ่ายซื้อขายวัสดุการเกษตรมีหน้าที่จัดการขายวัสดุการเกษตรให้แก่สมาชิกของสหกรณ์ และรับชำระเงิน เมื่อรับเงินแล้วต้องออกใบเสร็จรับเงิน นำลงบัญชีและส่งมอบเงินให้แก่สหกรณ์การเกษตรฯ ทุกครั้งที่รับเงิน จำเลยได้รับเงินรวม ๒๖ รายการในนามของสหกรณ์การเกษตรดังกล่าวเป็นจำนวน ๑๑๖,๐๑๔ บาท แล้วบังอาจเบียดบังนำเงินดังกล่าวไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยโดยทุจริต ไม่นำลงบัญชีและส่งมอบแก่สหกรณ์การเกษตรฯ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒, ๓๕๓, ๙๑ และให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๑๑๖,๐๑๔ บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๒, ๓๕๓ ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๑ ลงโทษจำคุกกระทงละ ๘ เดือน รวม ๒๖ กระทงเป็นจำคุก ๑๗ ปี ๔ เดือน รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก ๘ ปี ๘ เดือน ให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๑๑๖,๐๑๔ บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า ได้มีการตกลงยินยอมให้จำเลยหักเงินสะสมเงินเดือนและบำเหน็จใช้หนี้ส่วนหนึ่งและบิดาจำเลยยินยอมชำระหนี้อีกส่วนหนึ่งแทนเป็นเงิน ๕๖,๗๘๐ บาท โดยชำระในงวดแรกเป็นเงิน ๓๐,๗๘๐ บาท คงค้างอยู่อีกเป็นเงิน ๒๖,๐๐๐ บาท จึงเป็นการตกลงยอมความกันระหว่างผู้เสียหายกับจำเลย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙(๒) นั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งจำเลยมิได้ยกปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นว่าในศาลชั้นต้น เพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าวให้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องถือว่าข้อเท็จจริงนั้นไม่ปรากฏในสำนวนปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกาจึงไม่เกิดขึ้น ศาลฎีการับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๕ ประกอบด้วยมาตรา ๒๒๕
ให้ยกฎีกาของจำเลย