แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการให้เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณโดยกล่าวในฟ้องว่าจำเลยด่าว่าโจทก์และทำร้ายร่างกายโจทก์จนได้รับบาดเจ็บเป็นการเนรคุณโจทก์ ดังนี้ ข้อที่จำเลยไม่ยอมให้สิ่งจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์เพราะความยากไร้ของโจทก์ และจำเลยสามารถที่จะให้ได้ ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งของการประพฤติเนรคุณนั้น โจทก์มิได้บรรยายยกเป็นประเด็นในคำฟ้อง แม้โจทก์จะได้นำสืบในข้อนี้ก็เป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็นรับวินิจฉัยให้ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้จดทะเบียนยกที่ดินให้จำเลยซึ่งเป็นบุตรสาวโดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2514 ต่อมาเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2521 จำเลยมาบอกให้โจทก์รื้อเรือนเพื่อจะขายที่ดิน โจทก์ไม่ยอมจำเลยโกรธได้ด่าโจทก์ว่า “อีแก่ลิ้นไม่มีกระดูก ให้กูแล้วก็ไม่ยอมรื้อเรือนไปจากที่ดินกู ขอให้มึงตายโหงตายห่าทันตากูเห็นด้วย” ทั้งยังทุบตีโจทก์จนบาดเจ็บต้องรักษาเดือนเศษ เป็นการเนรคุณโจทก์ซึ่งชราไม่สามารถเลี้ยงชีพได้โดยลำพังจำเลยบอกปัดไม่รับเลี้ยงดูโจทก์ทั้งที่จำเลยสามารถจะเลี้ยงดูโจทก์ได้ จึงขอเพิกถอนการให้ที่ดินรายนี้
จำเลยให้การว่า ไม่เคยประพฤติเนรคุณโจทก์
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วไม่เชื่อว่าจำเลยจะกล่าวคำหมิ่นประมาทและประทุษร้ายโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วฟังว่า จำเลยมิได้ด่าว่าหรือประทุษร้ายโจทก์
ส่วนฎีกาโจทก์ในข้อที่ว่าจำเลยบอกปัดไม่เลี้ยงดูโจทก์ซึ่งเป็นมารดาอันถือได้ว่าเห็นเหตุหนึ่งของการประพฤติเนรคุณนั้น เห็นว่าปัญหาข้อนี้โจทก์มิได้บรรยายหรือยกเป็นประเด็นไว้ในคำฟ้องว่าจำเลยได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์เพราะความยากไร้ของโจทก์ และจำเลยสามารถที่จะให้ได้ แม้โจทก์จะนำสืบในข้อนี้ก็เป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายืน