คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2867/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์เวลา 8.30 นาฬิกา โจทก์ทราบนัดแล้วศาลออกนั่งพิจารณาเวลา 8.45 นาฬิกา ไม่ปรากฏต่อศาลในขณะนั้นว่าโจทก์มาถึงศาลแล้วหรือร้องขอเลื่อนคดี หรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดี การที่ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาให้ยกฟ้องแล้วมีคำสั่งใหม่ว่าให้จำหน่ายคดี จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
การถึงที่ทำการของศาลกับการถึงห้องพิจารณาคดีนั้นต่างกันแม้โจทก์ไปถึงศาลก่อนเวลาแต่ไม่เข้าห้องพิจารณาก็ถือได้ว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 มิได้บังคับให้ศาลต้องสอบถามจำเลย เป็นเรื่องที่จำเลยต้องแจ้งต่อศาลว่าตนตั้งใจจะดำเนินการพิจารณาต่อไป จำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเพื่อจะได้มีโอกาสซักค้านพยานโจทก์เป็นคนละกรณีกับการตั้งใจจะให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป.

ย่อยาว

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์วันที่30 กรกฎาคม 2528 เวลา 8.30 นาฬิกา วันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาล ฝ่ายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่น ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัด จึงให้ยกฟ้อง ส่วนคำร้องขอเลื่อนคดีไม่จำต้องสั่งต่อมาศาลชั้นต้นสั่งยกเลิกคำสั่งเดิมเป็นสั่งจำหน่ายคดีอ้างว่าเป็นการผิดพลาดไป
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่
ศาลชั้นต้นไม่รับคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ทราบวันเวลานัดสืบพยานโดยชอบแล้วครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลออกนั่งพิจารณาคดีนี้เวลา 8.55 นาฬิกา เกินเวลานัดไปแล้ว 25 นาที ไม่ปรากฏต่อศาลในขณะนั้นว่าโจทก์มาถึงศาลแล้วหรือร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลเสียก่อนที่จะมีคำสั่งจำหน่ายคดี การที่ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาให้ยกฟ้องแล้วมีคำสั่งใหม่ว่าให้จำหน่ายคดี ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว…..ฯลฯ…การถึงที่ทำการของศาลกับการถึงห้องพิจารณาคดีนั้นต่างกัน แม้โจทก์ไปถึงศาลก่อนเวลาแต่ไม่เข้าห้องพิจารณาก็ถือได้ว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา……….ฯลฯประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 มิได้บังคับให้ศาลต้องสอบถามจำเลย เป็นเรื่องที่จำเลยต้องแจ้งต่อศาลว่าตนตั้งใจจะให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป คดีนี้จำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเพื่อจะได้มีโอกาสซักค้านพยานโจทก์ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการตั้งใจจะให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไปเมื่อศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้ว ก็ไม่มีพยานโจทก์ที่จำเลยจะซักค้านหาจำเป็นที่จะต้องสั่งคำร้องขอเลื่อนคดีของจำเลยเพื่อซักค้านพยานโจทก์ไม่
พิพากษายืน.

Share