คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2866/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

นายจ้างมีหน้าที่จะต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างทันทีเมื่อเลิกจ้าง เมื่อไม่จ่ายย่อมถือว่าผิดนัด กฎหมายมิได้กำหนดให้จ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่วันเลิกจ้าง แต่ก็เป็นหนี้เงินอย่างหนึ่ง เมื่อไม่ปรากฏว่ามีการทวงถาม ย่อมต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง ขณะที่เลิกจ้างยังมีข้อโต้แย้งอยู่ว่า นายจ้างเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม แม้นายจ้างจะปิดประกาศให้ลูกจ้างทุกคนไปรับค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า แต่ลูกจ้างทุกคนไม่ยอมไปรับก็ตาม นายจ้างก็ไม่พ้นจากความรับผิดที่จะต้องชำระดอกเบี้ยของเงินดังกล่าวให้แก่ลูกจ้าง

ย่อยาว

โจทก์ทั้งหกสำนวนฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปี ค่าชดเชยและค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งหกสำนวนให้การว่า จำเลยยินดีจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ทุกคน แต่โจทก์ไม่ไปรับเอง จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้โจทก์ เพราะจำเลยได้ประกาศวันหยุดพักผ่อนประจำปี และได้จ่ายค่าทำงานวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์ทั้งหกแล้ว ส่วนการเลิกจ้างโจทก์ทั้งหกเนื่องจากจำเลยประสบปัญหาเรื่องวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตราคาสูงและขาดแคลน ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงจำเลยจึงจำเป็นต้องยุบแผนกที่โจทก์ทั้งหกทำงานอยู่ และเลิกจ้างโจทก์ทั้งหกจึงไม่ใช่เลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยไม่ได้ยุบแผนกแปรรูปโลหะ 2ที่โจทก์ทั้งหกทำงานอยู่อย่างจริงจัง การที่จำเลยอ้างว่าวัตถุดิบขาดแคลนจำเป็นต้องยุบแผนกที่โจทก์ทั้งหกทำงานและเลิกจ้างโจทก์ทั้งหกนั้นไม่เป็นเหตุผลเพียงพอให้รับฟังได้ ถือได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งหกโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จำเลยจึงต้องเสียค่าเสียหาย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย และดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ พิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินแก่โจทก์ทั้งหกดังนี้สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าคนละ 1,500บาท ค่าชดเชยคนละ 18,000 บาท ค่าเสียหายคนละ 30,000 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของเงินแต่ละจำนวน โดยดอกเบี้ยสำหรับค่าชดเชยนับแต่วันเลิกจ้าง ส่วนดอกเบี้ยสำหรับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าเสียหายนับแต่วันฟ้อง เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “จำเลยอุทธรณ์ในข้อ 6.4ว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยของค่าชดเชย และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ เพราะจำเลยได้ประกาศให้โจทก์ทุกคนมารับทั้งค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแล้ว แต่โจทก์ทุกคนไม่ยอมมารับ เห็นว่า สำหรับค่าชดเชยนั้นจำเลยมีหน้าที่ที่จะต้องจ่ายให้แก่โจทก์ทันทีเมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ เมื่อไม่จ่ายก็ต้องถือว่าผิดนัด ส่วนสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้านั้น แม้กฎหมายไม่ได้กำหนดให้จ่ายตั้งแต่วันเลิกจ้าง แต่สินจ้างส่วนดังกล่าวก็เป็นหนี้เงินอย่างหนึ่ง เมื่อไม่ปรากฏว่ามีการทวงถามจำเลยจึงต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง ขณะเลิกจ้างโจทก์ยังมีข้อโต้แย้งอยู่ว่าจำเลยเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม แม้จำเลยจะอ้างว่าได้ปิดประกาศให้โจทก์ทุกคนไปรับ แต่โจทก์ทุกคนไม่ยอมไปรับก็ตาม จำเลยก็ไม่พ้นจากความรับผิดที่จะต้องชำระดอกเบี้ยของค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่โจทก์ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share