คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ในความผิดฐานฉ้อโกงเพราะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง คงรับเฉพาะฎีกาโจทก์เกี่ยวกับคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ชอบ โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ยอมรับฎีกาในความผิดฐานฉ้อโกง ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้กระทำผิดฐานฉ้อโกงตามที่โจทก์ฟ้อง จึงไม่มีประโยชน์แก่คดีที่จะวินิจฉัยฎีกาโจทก์ต่อไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑, ๘๓, ๙๐ พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้องเฉพาะความผิดฐานฉ้อโกง ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คเกินอำนาจของศาลแขวง ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ จำเลยที่ ๑ หลบหนี ศาลชั้นต้นออกหมายจับและจำหน่ายคดีชั่วคราว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องบางข้อ และอุทธรณ์คำพิพากษาโดยผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ และพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นได้ แม้จะมิได้โต้แย้งหรือคัดค้านไว้ การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยคำสั่งระหว่างพิจารณาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และโจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องเป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดซึ่งมิได้กล่าวไว้ในฟ้อง ฟ้องเดิมของโจทก์ครบองค์ความผิดฐานฉ้อโกงอยู่แล้ว ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ และจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ขอให้อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องนั้น เห็นว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ในความผิดฐานฉ้อโกง เพราะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง คงรับเฉพาะฎีกาโจทก์เกี่ยวกับคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ชอบ และโจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ยอมรับฎีกาในความผิดฐานฉ้อโกงต่อศาลฎีกา ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ ๒ มิได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกงดังโจทก์ฟ้อง จึงไม่มีประโยชน์แก่คดีที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยฎีกาโจทก์ต่อไป
พิพากษายกฎีกาโจทก์

Share