คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2858/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าซ่อมหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่โจทก์ตามข้อตกลงรับประกันสินค้าตามสัญญา มิใช่เป็นเรื่องโจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องให้รับผิดในความชำรุดบกพร่องแห่งทรัพย์ ซึ่งมีอายุความ 1 ปี ข้อตกลงพิเศษตามสัญญาไม่มีกฎหมายเรื่องอายุความบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 164 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ซึ่งมีจำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ได้ทำสัญญาขายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแก่โจทก์ ๑ เครื่อง โดยรับประกันว่าหากเกิดความชำรุดบกพร่องหรือขัดข้องเนื่องจากการใช้งานตามปกติภายใน ๑ ปี นับแต่วันส่งมอบ จะจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้อยู่ในสภาพใช้การได้ดีภายใน ๑๕ วัน นับแต่ได้รับแจ้งโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น หากไม่ปฏิบัติตามสัญญาจะยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ภายใน ๓๐ วัน จำเลยที่ ๓ ทำสัญญาค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาโดยยอมรับผิดในวงเงิน ๗,๗๐๐ บาท ต่อมาหลังจากส่งมอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเกิดชำรุดขัดข้องใช้การไม่ได้ โจทก์แจ้งแก่จำเลยที่ ๑ แล้ว จำเลยที่ ๑ เพิกเฉย โจทก์จึงจ้างบุคคลภายนอกซ่อมเป็นเงิน ๑๘,๖๐๐ บาท ขอให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จำเลยที่ ๓ ต้องร่วมรับผิดชำระเงิน ๗,๗๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ให้การว่า โจทก์ฟ้องคดีเกิน ๑ ปี คดีโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๓ ชำระเงินแก่โจทก์ตามวงเงินที่ค้ำประกัน โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ ๓ ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๗๔ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษากลับ ให้จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ร่วมกันชำระเงินจำนวน ๑๐,๙๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครี่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยที่ ๑ ทำสัญญาขายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้โจทก์ และได้ส่งมอบนำไปติดตั้งให้โจทก์ใช้งานที่โรงพยาบาลขุนยวม เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม๒๕๒๗ ต่อมาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเกิดขัดข้องใช้งานไม่ได้ โจทก์มีหนังสือลงวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๒๗แจ้งให้จำเลยที่ ๑ ทำการแก้ไข จำเลยที่ ๑ ทำการแก้ไขไม่สำเร็จ วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๒๘โจทก์จึงว่าจ้างบุคคลภายนอกทำการแก้ไขจนใช้การได้ เสียค่าใช้จ่าย ๑๘,๖๐๐ บาท จำเลยที่ ๑และที่ ๒ ฎีกาว่า ตามฟ้องเป็นเรื่องโจทก์ฟ้องให้รับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องตกอยู่ในบังคับแห่งป.พ.พ. มาตรา ๔๗๔ โจทก์ฟ้องเกิน ๑ ปี นับแต่วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๒๗ ซึ่งโจทก์พบเห็นความชำรุดบกพร่อง คดีโจทก์จึงขาดอายุความนั้น เห็นว่า การซื้อขายเครื่องกำเนิดไฟฟ้ารายนี้มีการรับรองคุณภาพสินค้าไว้เป็นพิเศษ มิใช่การซื้อขายธรรมดา ทั้งตามคำฟ้องโจทก์ก็แสดงแจ้งชัดว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ ๑ รับผิดชดใช้ค่าซ่อมที่โจทก์ได้จ่ายให้แก่บุคคลภายนอกไปตามข้อตกลงรับประกันสินค้าตามสัญญาซื้อขาย มิใช่ให้จำเลยที่ ๑ รับผิดในความชำรุดบกพร่องของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีอยู่ในขณะทำสัญญาซื้อขายหรือที่มีอยู่ก่อนแล้วในวันส่งมอบ ตามที่โจทก์นำสืบข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเกิดขัดข้องเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๒๗ เป็นเวลาภายหลังจากมีการส่งมอบและโจทก์ได้ใช้งานตามปกติแล้วถึง ๒ เดือน ตามคำฟ้อง และข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่โจทก์ใช้สิทธิฟ้องให้จำเลยที่ ๑ รับผิดชดใช้ค่าซ่อมหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่โจทก์ตามข้อตกลงรับประกันสินค้าตามสัญญา มิใช่เป็นเรื่องโจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ ๑ รับผิดในความชำรุดบกพร่องแห่งทรัพย์ธรรมดาซึ่งจะทำให้คดีโจทก์มีอายุความ ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๗๔ สิทธิเรียกร้องของโจทก์ให้จำเลยที่ ๑ รับผิดตามข้อตกลงพิเศษแห่งสัญญาดังกล่าวข้างต้น ไม่มีกฎหมายเรื่องอายุความไว้เป็นการเฉพาะ จึงมีอายุความ ๑๐ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๖๔ คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share