แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ตามสัญญาเช่าระบุว่า ท. ผู้เช่ามีสิทธิโอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่นได้เมื่อได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าการที่ ท. ได้โอนสิทธิการเช่าให้โจทก์จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนสัญญา เพียงแต่ยังไม่ผูกพันผู้ให้เช่าจนกว่าจะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ โจทก์จึงชอบที่จะโอนสิทธิการเช่าให้จำเลยต่อไปได้โดยนัยเดียวกันสัญญาเซ้งตึกแถวพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยไม่เป็นโมฆียะโจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากตึกแถวเลขที่ 528/18-19ถนนพญาไท และส่งคืนให้โจทก์ในสภาพเรียบร้อย ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 3,000 บาท นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกจากตึกแถวดังกล่าว ให้โจทก์คืนเช็คแก่จำเลยฟ้องแย้งของจำเลยนอกจากนี้ให้ยก ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความว่า นายทวน ดำรงมณี เป็นผู้เช่าตึกแถวพิพาทจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามเอกสารหมาย จ.1 ต่อมาโจทก์เข้าทำการค้าในตึกแถวพิพาท โดยเพาะลูกปลาขาย แล้วจำเลยทำสัญญาเซ้งตึกแถวพิพาทกับโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.4 และ จ.5 โจทก์ได้รับเงินตามสัญญาจากจำเลยแล้วรวม 180,000 บาท กับได้มอบตึกแถวพิพาทให้จำเลยเข้าครอบครอง ครั้นเมื่อเช็คฉบับลงวันที่ 15 มิถุนายน 2521 ถึงกำหนดใช้เงิน จำเลยแจ้งต่อธนาคารให้ระงับการจ่าย โจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2521 ตามเอกสารหมาย จ.6 และใบตอบรับ เอกสารหมาย จ.7
พิเคราะห์แล้ว ปัญหาที่ว่าสัญญาเซ้งตึกแถวพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆียะหรือไม่ และโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่นั้น เห็นว่าตามสัญญาเช่า เอกสารหมาย จ.1 ระบุเงื่อนไขข้อ 8 ไว้ว่า นายทวนผู้เช่ามีสิทธิโอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่นได้ เมื่อได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังนั้นหากนายทวนตกลงจะโอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่น จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนสัญญาเช่า ซึ่งโจทก์นำสืบว่านายทวนได้เซ้งสิทธิการเช่า และมอบการครอบครองตึกแถวพิพาทให้โจทก์ โดยมีคำเบิกความของนายทวน และบันทึกเอกสารหมาย จ.2 สนับสนุน ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่านายทวนได้ตกลงโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์แล้ว เพียงแต่ยังไม่ผูกพันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนกว่าจะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากมหาวิทยาลัย โจทก์จึงชอบที่จะเซ้งสิทธิการเช่าให้ผู้อื่นต่อไปได้โดยนัยเดียวกัน เมื่อจำเลยทำสัญญาเซ้งตึกแถวพิพาทจากโจทก์ โจทก์กับจำเลยจึงต้องมีความผูกพันต่อกันตามสัญญาและสัญญาดังกล่าวไม่เป็นโมฆียะ เพราะโจทก์อาจให้นายทวนยินยอมเป็นหนังสือจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้วโอนสิทธิการเช่าให้จำเลยได้ ตามสัญญาดังกล่าวระบุว่า จำเลยจะชำระเงินให้โจทก์เป็นงวด ๆ หากจำเลยผิดสัญญายอมให้โจทก์ริบเงินที่จำเลยได้ชำระไปแล้วทั้งหมด ดังนั้นการที่จำเลยแจ้งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คฉบับลงวันที่ 15 มิถุนายน 2521 ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องชำระให้โจทก์ตามงวดในสัญญา ถือได้ว่าจำเลยผิดสัญญา โจทก์จึงมีสิทธิริบเงินที่จำเลยได้ชำระไว้แล้ว และมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากตึกแถวพิพาทได้ ข้อที่จำเลยอ้างว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยบอกเลิกสัญญาเช่ากับนายทวนแล้ว ตามเอกสารหมาย ล.1 และ ล.2 นั้น ก็ปรากฏว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยบอกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2522 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่จำเลยผิดสัญญาต่อโจทก์แล้ว การบอกเลิกสัญญาเช่าดังกล่าวจึงไม่เป็นเหตุให้สัญญาเซ้งตึกแถวพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยซึ่งมีมาแต่เดิมระงับไป”
พิพากษายืน