แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นลูกวงแชร์ได้ประมูลแชร์ในเดือนมีนาคมได้ มีหน้าที่จะต้องชำระค่าแชร์คืนโจทก์ ซึ่งเป็นนายวงเป็นงวดประจำเดือนตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกันยายน เมื่อจำเลยปฏิเสธไม่ชำระค่าแชร์ให้แก่โจทก์ ปัญหาว่าค่าแชร์งวดประจำเดือนมิถุนายนถึงกันยายนจะถึงกำหนดชำระแล้วหรือไม่ จึงไม่สำคัญ จำเลยต้องชำระค่าแชร์งวดประจำเดือนมิถุนายนถึงกันยายนให้แก่โจทก์ด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยและผู้มีชื่อรวม 20 คนร่วมกันเล่นแชร์เปียหวย โจทก์เป็นนายวงแชร์ จำเลยที่ 1 เป็นลูกวงแชร์เล่น 2 มือมือละ 3,000 บาท ได้ประมูลแชร์ในเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคมได้ จำเลยได้รับเงินที่ประมูลได้ไปจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว จำเลยที่ 2 ได้ออกเช็คประกันแชร์มอบให้โจทก์ไว้ 6 ฉบับ ฉบับละ 6,000 บาท รวมเป็นเงิน36,000 บาท ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ร. และ ซ. ประมูลแชร์ประจำเดือนตามลำดับได้ โจทก์ได้รวบรวมเงินจากลูกวงแชร์คนอื่น ๆมอบให้ ร. และ ซ. ไปพร้อมกับเช็คของจำเลยที่ 2 คนละฉบับ เมื่อถึงกำหนดวันสั่งจ่าย ร. และ ซ. นำไปเรียกเก็บเงินธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่ามีคำสั่งให้ระงับการจ่าย โจทก์ต้องรับเช็คคืนและชำระเงินสดให้แก่ร. และ ซ. ไป โจทก์กับจำเลยมีข้อตกลงกันว่า เมื่อจำเลยประมูลแชร์ได้จะต้องสั่งจ่ายเช็คมอบให้โจทก์ยึดถือไว้ตามงวดและจำนวนเงินที่จะต้องส่งในงวดต่อไป เมื่อลูกวงแชร์คนอื่นประมูลแชร์ได้ โจทก์จะมอบเช็คนั้นให้ผู้ประมูลแชร์ได้นำไปลงวันที่เพื่อเรียกเก็บเงินจากธนาคาร หากงวดใดงวดหนึ่งเช็คนั้นถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินให้ถือว่าลูกวงแชร์คนนั้นเป็นฝ่ายผิดสัญญา ยินยอมให้โจทก์ซึ่งจะต้องรับผิดต่อลูกวงแชร์คนอื่นที่ยังประมูลไม่ได้ฟ้องร้องบังคับคดีต่อลูกวงแชร์ซึ่งเป็นฝ่ายผิดสัญญาได้ทันที โจทก์ต้องรับผิดต่อลูกวงแชร์คนอื่น ๆ ที่จะใช้สิทธิประมูลแชร์มือถัดไปอีก 4 มือ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 36,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่าเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม จำเลยที่ 1ประมูลแชร์มือที่ 1 และที่ 2 ได้ตามลำดับ สำหรับมือที่ 1 ได้รับเงินครบถ้วนส่วนมือที่ 2 เมื่อหักดอกเบี้ยแล้วต้องได้รับเงิน 54,600 บาท แต่โจทก์ให้จำเลยเพียง 25,000 บาท ค้างไว้ 29,600 บาท ในการประมูลแชร์มือที่ 2 โจทก์ให้จำเลยที่ 2 ออกเช็ค 6 ฉบับไว้เป็นประกัน จะต้องนำเช็คนั้นไปเรียกเก็บเงินสดค่าแชร์จากจำเลยที่ 1 จะนำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ โจทก์ยังค้างเงินค่าแชร์ที่จำเลยที่ 1 ส่งให้โจทก์ในฐานะหัวหน้าวงอีก 6,000 บาท จึงเป็นเงินค่าแชร์ที่โจทก์ยังค้างส่งให้จำเลยที่ 1 รวม 35,600 บาท โจทก์จะฟ้องเรียกเงินตามเช็คที่เหลืออีก 4 ฉบับ ไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงกำหนดการประมูลหากโจทก์ชำระเงินที่ค้าง 35,600 บาทให้จำเลยในเดือนมีนาคม จำเลยสามารถนำไปให้กู้จนถึงเดือนกันยายน จะได้ดอกเบี้ย 2,640 บาท รวมเป็นเงินที่โจทก์ต้องชำระให้จำเลยทั้งสิ้น 38,240 บาท เกินกว่าค่าแชร์ที่จำเลยจะต้องชำระให้แก่โจทก์ จำเลยจึงหาจำต้องชำระค่าแชร์ตามฟ้องให้โจทก์ไม่ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 36,000 บาทให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดในจำนวนเงินค่าแชร์ ไม่ได้ฟ้องให้รับผิดตามตั๋วเงิน จำเลยที่ 1 ได้รับเงินค่าแชร์ทั้งสองมือไปจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว เมื่อเช็คสองงวดแรกขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดส่วนค่าแชร์งวดต่อ ๆ ไปยังไม่ถึงกำหนดชำระ จำเลยที่ 1 ยังไม่ต้องชำระให้โจทก์โจทก์ไม่ได้ฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดตามจำนวนเงินในเช็ค เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ได้เล่นแชร์กับโจทก์ จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าแชร์ตามฟ้อง พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าแชร์ประจำเดือนเมษายนและพฤษภาคม รวมเป็นเงิน12,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ยกฟ้องจำเลยที่ 2
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยที่ 1 ได้รับเงินที่ประมูลแชร์ได้ไปจากโจทก์ครบถ้วนแล้วจำเลยที่ 1 มีหน้าที่จะต้องชำระค่าแชร์ให้แก่โจทก์เพื่อโจทก์จะได้รวบรวมมอบให้แก่ลูกวงแชร์ที่ยังไม่ได้ประมูลซึ่งเหลืออีก 6 มือ หรือ 6 งวด คืองวดประจำเดือนเมษายนถึงกันยายน เป็นเงินงวดละ 6,000 บาท จำเลยที่ 2 ได้ออกเช็ค6 ฉบับตามฟ้องให้โจทก์ยึดถือไว้ ต่อมาในการประมูลแชร์ประจำงวดเดือนเมษายนและพฤษภาคม เมื่อโจทก์รวบรวมเงินค่าแชร์ให้แก่ลูกวงแชร์ผู้ประมูลได้โจทก์ได้มอบเช็คตามฟ้อง 2 ฉบับ ให้ไปด้วย แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะจำเลยที่ 2 สั่งให้ระงับการจ่าย โจทก์ต้องรับเช็คนั้นคืนแล้วจ่ายเงินสดให้แก่ลูกวงแชร์ผู้นั้นไปศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อจำเลยปฏิเสธอยู่ว่าจำเลยไม่จำต้องชำระค่าแชร์ตามฟ้องให้แก่โจทก์โดยอ้างว่าโจทก์ยังค้างชำระค่าแชร์ให้จำเลยที่ 1 มีจำนวนเกินกว่าค่าแชร์ที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระให้แก่โจทก์ ฉะนั้นปัญหาที่ว่าค่าแชร์งวดประจำเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ซึ่งจำเลยที่ 1 มีหน้าที่จะต้องชำระให้แก่โจทก์จะถึงกำหนดชำระแล้วหรือไม่ จึงไม่สำคัญ จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่ต้องชำระเงินค่าแชร์งวดประจำเดือนมิถุนายนถึงกันยายนให้แก่โจทก์และฟังว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ส่งหรือชำระเงินค่าแชร์ให้โจทก์ จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดชำระแทนจำเลยที่ 1
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 36,000 บาทให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
