คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การแสดงความอาฆาตมาดร้าย ตาม ม. 31 นั้น ต้องเป็นเรื่องแสดงความอาฆาตว่าจะทำร้ายภายใน 2 ปี
พฤติการณ์ที่แสดงว่า แสดงอาฆาตจะทำร้ายในระยะเวลาภายใน 2 ปี
ฟ้องโจทก์หาว่า จำเลยกล่าวอาฆาตว่า “ถึงเป็นพะยานให้โจทก์เรื่องโจรสลัด ไม่ถึง 10 ปีต้องตาย โดยจะให้นายแช่มทำร้ายเสีย” แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกล่าวว่า “มึงเป็นพะยานผัวกูติดไม่เกิน 10 ปี ออกมาพวกมึงต้องตาย” ดังนี้ ไม่ถือว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกล่าวแสดงอาฆาตมาดร้ายต่อนักโทษชายคำอ้าย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๓๑
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์นำสืบถึงถ้อยคำที่จำเลยกล่าวอาฆาตผิดไปจากที่กล่าวในฟ้อง พิพากษากลับศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องว่า “มึงเป็นพะยานให้โจทก์เรื่องโจรสลัด ไม่ถึง ๑๐ ปีต้องตาย โดยจะให้นายแช่มทำร้ายเสีย” นั้น เป็นคำกล่าวแสดงอาฆาตมาดร้ายได้ แม้กฎหมายลักษณะอาญาจะบัญญัติเอาโทษเพียงให้ประกันทานบนไว้ภายในระยะ ๒ ปี มิได้มุ่งคุ้มครองจนถึงเวลา ๑๐ ปีดังที่จำลยกล่าวก็ตาม เพราะถ้อยคำที่จำเลยกล่าวนั้นอาจตีความได้ว่า จำเลยอาจกระทำการดั่งที่กล่าวอาฆาตนั้นภายในเดือนหนึ่งหรือสองเดือนก็ได้ ส่วนปัญหาว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวตามที่โจทก์สืบได้ความตามทางพิจารณาว่า จำเลยกล่าวว่า “มึเป็นพะยานผัวกูติดไม่เกิน ๑๐ ปี ออกมาพวกมึงต้องตาย” นั้นก็คงมีใจความอย่างเดียวกับที่โจทก์กล่าวในฟ้อง คลาดเคลื่อนแต่ฉะเพาะถ้อยคำบางคำซึ่งหาคำให้เปลี่ยนแปลงความหมายหรือข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นไม่ ยังไม่พอถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้เรียกประกันทานบนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share