แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่เจ้าหนี้ผู้ทรงเช็ค(โจทก์) เป็นแต่เพียงนำเช็คที่จำเลยลูกหนี้เป็นผู้สั่งจ่ายไปเข้าบัญชีของตนที่ธนาคาร ก.ก่อนเช็คถึงกำหนด 1 วัน ซึ่งเจ้าหนี้ผู้ทรงเช็คมีสิทธิที่จะทำเช่นนั้นได้ ทั้งนี้ เพื่อให้ธนาคารดังกล่าวเรียกเก็บเงินจากธนาคารเจ้าของเช็คเมื่อเช็คถึงกำหนดชำระตามวิธีการของธนาคารนั้นเอง เมื่อธนาคาร ก. ด่วนเรียกเก็บเงินไปยังธนาคารเจ้าของเช็ค และธนาคารเจ้าของเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่าเงินในบัญชีจำเลยลูกหนี้ไม่พอจ่ายในวันเดียวกันนั้นเองนั้น เป็นเรื่องการปฏิบัติงานในระหว่างธนาคารกับธนาคาร จะถือว่าผู้ทรงเช็คใช้สิทธิไล่เบี้ยลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายก่อนเช็คถึงกำหนดหาได้ไม่ เมื่อธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายจึงต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คนั้น ทั้งเจ้าหนี้ผู้ทรงเช็คได้ทวงถามให้ลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายชำระเงินตามเช็คหลายครั้งแล้วลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายก็แจ้งว่าไม่มีเงินชำระ ดังนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์จึงมีสิทธิขอรับชำระหนี้ตามเช็ครายนี้ได้
ย่อยาว
คดีนี้บริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ตามเช็คและดอกเบี้ยเป็นเงิน 117,139 บาทต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พิจารณาแล้วเสนอความเห็นต่อศาลแพ่งว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดดอนเมืองการค้าไม้เป็นลูกค้าของบริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้ได้ทำหนังสือฉบับลงวันที่ 19 เมษายน 2519 เสนอขายลดเช็คของนายอุงเจ็งลูกหนี้ 1 ฉบับ คือเช็คธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สาขาวัดตึก หมายเลข 016498 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2519 จำนวนเงิน 99,800 บาท แก่บริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้ และห้างหุ้นส่วนจำกัดดอนเมืองค้าไม้ได้สลักหลังเช็คเป็นการค้ำประกันไว้ บริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้รับซื้อลดเช็คฉบับดังกล่าวไว้และได้จ่ายเงินตามเช็คให้แก่ผู้ขายลดเช็คโดยหักค่าธรรมเนียมไว้ร้อยละ 15 ของจำนวนเงินตามเช็คตามระเบียบ บริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้จึงเป็นผู้ทรงเช็คฉบับดังกล่าวโดยชอบ เจ้าหนี้ได้นำเช็คเข้าบัญชีวันที่ 21 มิถุนายน 2519 แต่เช็คลงวันที่ 22 มิถุนายน 2519 เป็นการนำเช็คเข้าบัญชีก่อนวันถึงกำหนดชำระ แม้ว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยอ้างเหตุผลว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่ายก็ตาม เมื่อผู้ทรงเช็คนำยื่นเช็คเพื่อเรียกเก็บเงินก่อนวันถึงกำหนดชำระ ผู้ทรงเช็คจะใช้สิทธิไล่เบี้ยแก่ผู้สั่งจ่ายและบุคคลอื่นซึ่งต้องรับผิดตามตั๋วเงินไม่ได้ เช็คเป็นตั๋วเงินชนิดไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดรับรองและเมื่อลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายเช็คฉบับดังกล่าวมิได้ตกเป็นคนล้มละลายในขณะนั้น เจ้าหนี้จึงไม่มีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะใช้สิทธิไล่เบี้ยได้ก่อนเช็คถึงกำหนดชำระเมื่อเจ้าหนี้ได้เรียกเก็บเงินตามเช็คก่อนวันถึงกำหนดชำระและไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะไล่เบี้ยลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายก่อนเช็คถึงกำหนดชำระได้ เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายเช็ค ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คหนี้รายนี้ไม่มีมูลตามกฎหมายที่จะเรียกร้องให้ชำระหนี้ได้ เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 94 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 จึงเห็นควรยกคำขอรับชำระหนี้บริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้ตามมาตรา 107 (1) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 เสียทั้งสิ้น
ศาลแพ่งมีคำสั่งว่า ยกคำขอรับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ อนุญาตให้ผู้ขอรับชำระหนี้ได้รับชำระหนี้ตามเช็คหมาย จ.2 เป็นเงิน 99,800 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 130(8)
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีความเห็นว่าบริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้เป็นผู้ทรงเช็ครายนี้โดยชอบนั้นเป็นการถูกต้องแล้วแต่ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีความเห็นว่าเมื่อเจ้าหนี้ผู้ทรงเช็คได้เรียกเก็บเงินตามเช็คก่อนวันถึงกำหนดชำระและไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะไล่เบี้ยลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายก่อนเช็คถึงกำหนดชำระได้ เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชำระเงินตามเช็ค หนี้ตามเช็ครายนี้จึงไม่มีมูลตามกฎหมายที่จะเรียกร้องให้ชำระหนี้ได้นั้น เป็นความเห็นที่คลาดเคลื่อนอยู่ เพราะตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏดังกล่าวข้างต้น เจ้าหนี้ผู้ทรงเช็คเป็นแต่เพียงนำเช็ครายนี้ไปเข้าบัญชีของตนที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาถนนเสือป่า ก่อนเช็คถึงกำหนด 1 วันซึ่งเจ้าหนี้ผู้ทรงเช็คมีสิทธิที่จะทำเช่นนั้นได้ทั้งนี้เพื่อให้ธนาคารดังกล่าวเรียกเก็บเงินจากธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขาวัดตึก เมื่อเช็คถึงกำหนดชำระตามวิธีการของธนาคารนั่นเอง การที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาถนนเสือป่าด่วนเรียกเก็บเงินไปยังธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขาวัดตึก และธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สาขาวัดตึก ปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่าเงินในบัญชีจำเลยลูกหนี้ไม่พอจ่ายในวันเดียวกันนั้นเองเป็นเรื่องการปฏิบัติงานในระหว่างธนาคารกับธนาคาร จะถือว่าผู้ทรงเช็คใช้สิทธิไล่เบี้ยลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายก่อนเช็คถึงกำหนดดังความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หาได้ไม่ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายจึงต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คนั้นทั้งเจ้าหนี้ผู้ทรงเช็คได้ทวงถามให้ลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายชำระเงินตามเช็คหลายครั้งแล้วลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายก็แจ้งว่าไม่มีเงินชำระ ดังนี้บริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์จึงมีสิทธิขอรับชำระหนี้ตามเช็ครายนี้ได้
พิพากษายืน