คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2844/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่เจ้าพนักงานตำรวจยึดรถจักรยานยนต์คันที่คนร้ายลักไปจากผู้เสียหายในคืนเกิดเหตุเป็นของกลาง เนื่องจากคนร้ายขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปชนคนได้รับบาดเจ็บแล้วทิ้งรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไว้ตรงจุดชนนั้น เป็นการที่รถจักรยานยนต์ของกลางได้เข้ามาอยู่ในความยึดถือของเจ้าพนักงานตามอำนาจที่กฎหมายให้ไว้ในคดีที่เกิดขึ้นภายหลังโดยยังไม่ได้เข้ามาอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหายและยังไม่ได้เข้ามาอยู่ในความยึดถือของเจ้าพนักงานตำรวจในคดีที่มีการลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จึงยังถือไม่ได้ว่าขณะที่เจ้าพนักงานตำรวจยึดรถจักรยานยนต์ของกลางไว้นั้น รถจักรยานยนต์ของกลางพ้นสภาพจากทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด เพราะเจ้าพนักงานตำรวจที่ยึดไว้ไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมาขณะยึด การที่จำเลยมาติดต่อ ช.ให้นำเงินไปไถ่ในวันรุ่งขึ้นนั้น เป็นการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในสภาพที่ถูกยึดมาเพียงแต่การช่วยจำหน่ายของจำเลยไม่สามารถที่จะบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะขณะที่จำเลยช่วยจำหน่ายทรัพยนั้น รถจักรยานยนต์ของกลางอยู่ในความยึดถือของพนักงานตำรวจที่ยึดไว้ในคดีอื่นการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามรับของโจรที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก ประกอบมาตรา 81

Share