คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าของรวมในกรรมสิทธิ์ที่ดินผู้หนึ่งไปก่อให้เกิดการติดพันในที่ดินแปลงนั้น โดยทำสัญญาประณีประนอมยอมความให้บุคคลอื่นมามีสิทธิเก็บกินโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของรวมคนอื่น ๆ ด้วย สัญญานั้นหาผูกพันเจ้าของรวมคนอื่น ๆ ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามไม่ให้จำเลยกับบริวารขัดขวางในการที่โจทก์จะใช้สิทธิ์เก็บกินในเนื้อที่ ๔ ไร่ ซึ่งเป็นส่วนได้ของสามีโจทก์
จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ ในที่สุดความตกลงให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง คำให้การ คำรับในรายงานกระบวนพิจารณา และข้อเท็จจริงในสำนวนคดีแดงที่ ๑๘๕/๒๔๙๕
ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่านายปานสามีจำเลยมีบุตร ๒คน คือนายกลับสามีโจทก์และนายปิ่น เมื่อเดือนพฤษจิการยน ๒๔๙๓ โจทก์ได้ฟ้องขอหย่าขาดจากนายกลับและขอแบ่งสินสมรส ในที่สุดโจทก์และนายกลับทำสัญญาปราณีประนอมยอมความกันว่ายังไม่หย่าขาดกันแต่นายกลับยอมให้โจทก์มีสิทธิ์เก็บกินในที่พิพาทจำนวน ๔ไร่ แต่จำเลยได้ส่งคนไปกรีดยางในที่พิพาท โจทก์ไม่สามารถใช้สิทธิ์ตามสัญญาปราณีประนอมยอมความได้ จึงฟ้องจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์กับนายกลับ ศาลชี้ขาดว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึงของที่มรดกของนายปาน ซึ่งโจทก์นายกลับ,นางปิ่น และจำเลยปกครองร่วมกันมา พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์จึงฟ้องคดีนี้
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่เป็นฟ้องซ้ำ ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีได้โดยไม่ต้องขอนุญาตสามีแล้ว คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความพิพากษาให้ห้ามจำเลยและบริวารไม่ให้เกี่ยวข้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าการที่โจทก์และนายกลับสามีได้ทำสัญญาปราณีประนอมยอมความกันก่อให้เกิดภาระติดพันในตัวทรัพย์ขึ้นโดยจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของร่วมไม่ได้ยินยอมด้วยนั้น หาผูกพันจำเลยไม่ โจทก์จะขอให้ศาลบังคับตามฟ้องไม่ได้ พิพากษายืน

Share