แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ฝากเงินไว้กับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคล จำเลยที่ 1ออกเช็คล่วงหน้าให้แก่โจทก์ โดยจำเลยที่ 3 และที่ 4 ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อด้าน หลังเช็คพิพาทและประทับตราจำเลยที่ 1 การปฏิบัติเช่นนี้เป็นไปตามปกติในการรับฝากเงินอันเป็นกิจการของจำเลยที่ 1 แสดงว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาเพียงเพื่อกระทำการแทนจำเลยที่ 1 เท่านั้น ซึ่งมีความหมายว่าเป็นผู้สลักหลังย่อมเป็นเพียงประกัน (อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่าย จึงจะฟังว่าจำเลยที่ 2เป็นตัวการร่วมในการออกเช็คพิพาทไม่ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลเฉพาะจำเลยที่ 2,ที่ 3 และที่ 4 จึ่งสั่งประทับฟ้องในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2,ที่ 3 และที่ 4 สำหรับจำเลยที่ 1 ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3, ที่ 4 หลบหนี ศาลชั้นต้นออกหมายจับ แต่ยังไม่ได้ตัวมาดำเนินคดี จึงสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 3, ที่ 4 ชั่วคราว
จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พงศ. 2497 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เป็นความผิดสองกระทง ลงโทษกระทงละ 5 เดือน รวมจำคุก 10 เดือน
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังยุติว่าจำเลยที่ 2, ที่ 3 และที่ 4 เป็นกรรมการของบริษัทจำเลยที่ 1 โจทก์ฝากเงินไว้กับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ได้ออกเช็คพิพาททั้งสองฉบับลงวันที่สั่งจ่ายล่วงหน้า 1 ปี ให้โจทก์ไว้ เป็นจำนวนเงินเท่ากับที่โจทก์ฝาก โดยจำเลยที่ 3 และที่ 4 ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายส่วนจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อไว้ด้านหลังเช็คและประทับตราของบริษัทจำเลยที่ 1 ไว้ด้วย เมื่อเช็คพิพาททั้งสองฉบับถึงกำหนดวันสั่งจ่ายโจทก์ดำเนินการเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินออกใบคืนเช็คให้ เช็คพิพาทและใบคืนเช็ค ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.2ถึง จ.5 ปัญหามีว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่เห็นว่าโจทก์กับจำเลยที่ 2 มิได้มีนิติสัมพันธ์กันโดยตรง มูลกรณีเกิดขึ้นเนื่องจากโจทก์ฝากเงินกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลและเมื่อรับฝากเงินจากโจทก์ไว้แล้ว จำเลยที่ 1 มีหน้าที่โดยตรงในการออกเช็คล่วงหน้าให้แก่โจทก์ ปรากฏตามเช็คพิพาทเอกสารหมาย จ.2และ จ.4 ว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทแม้จะฟังว่าจำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 2 ก็หาได้ร่วมลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทด้วยไม่ และการปฏิเสธเช่นนี้เป็นไปตามปกติในการรับฝากเงินซึ่งเป็นกิจการของจำเลยที่ 1 โดยเฉพาะ ดังที่จำเลยที่ 2 นำสืบ การที่จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อด้านหลังเช็คแล้วประทับตราของจำเลยที่ 1 ไว้ด้วย แสดงว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาเพียงเพื่อกระทำการแทนจำเลยที่ 1 เท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อจำเลยที่ 2 มิได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทด้วย จำเลยที่ 2เพียงแต่ลงลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาททั้งสองฉบับ ซึ่งมความหมายว่าเป็นผู้สลักหลัง ย่อมเป็นเพียงประกัน (อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่ายจึงจะฟังว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมในการออกเช็คพิพาทด้วยหาได้ไม่จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.