คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2816/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน ปรับ 2,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำคุกจำเลย 2 เดือน สถานเดียวโดยไม่รอการลงโทษจำคุกแม้เป็นการแก้ไขมากก็ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่าจำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ ข้อเท็จจริงต้องฟังตามที่โจทก์บรรยายฟ้องจำเลยฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นเพียงลูกค้าผู้เล่นเท่านั้น ดังนี้เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงให้ผิดไปจากคำรับสารภาพของจำเลย และเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ว่ากล่าวกันมาในศาลล่างทั้งสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบโดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ทั้งนี้โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2504 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ริบของกลางและจ่ายสินบนนำจับ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 พระราชบัญญัติการพนัน(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7)พ.ศ. 2504 มาตรา 3 จำคุก 6 เดือน ปรับ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 2,000 บาทโทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนของกลางให้ริบ ให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่ง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ไม่รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด4 เดือน สถานเดียว จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย3 เดือน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 2 เดือน สถานเดียวโดยไม่รอการลงโทษจำคุก แม้เป็นการแก้ไขมาก คดีก็ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษให้นั้น เป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมิใช่เป็นเจ้ามือเล่นสลากกินรวบจำเลยเป็นเพียงแต่ลูกค้าผู้เล่นเท่านั้น จำเลยรับสารภาพไปโดยเข้าใจว่าถูกจับในข้อหาเป็นลูกค้าผู้เล่นมิใช่ในข้อหาเจ้ามือการที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นผู้เล่นการพนันสลากกินรวบโดยเป็นเจ้ามือ โดยมิได้วินิจฉัยพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยก่อนเป็นการไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนแล้วว่าจำเลยกระทำความผิดฐานเล่นการพนันสลากกินรวบโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ขายสลากกินรวบให้แก่ผู้เข้าร่วมเล่นพนัน เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพต่อศาลว่าได้กระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ข้อเท็จจริงก็ต้องฟังตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง จำเลยจะโต้แย้งข้อเท็จจริงให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้ข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นฎีกาว่าไม่ได้เป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบ แต่เป็นลูกค้าผู้เล่นเท่านั้น เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงให้ผิดไปจากคำรับสารภาพของจำเลย และเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้มีการว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำเลยจะยกขึ้นในชั้นฎีกาเพื่อเป็นเหตุให้ศาลฎีการอการลงโทษจำคุกให้จำเลยไม่ได้”
พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share