คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยปลูกบ้านเนื้อที่ประมาณ 10ตารางวาในที่ดินของโจทก์โฉนดหมายเลข 7083ตำบลสี่แยกมหานาค(ดุสิต) อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์เป็นการละเมิดขอให้ขับไล่แม้จะไม่ระบุอาณาเขตที่ดินของโจทก์มาว่าทิศเหนือทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก จดเขตที่ดินของใครจำเลยก็อาจเข้าใจข้อหาในฟ้องได้ชัดเจนแล้วฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดหมายเลข 7083ตำบลสี่แยกมหานาค (ดุสิต) อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ประมาณ9 ไร่ 19 ตารางวา จำเลยเข้ามาปลูกบ้านไม้ชั้นเดียวเลขที่ 395 เนื้อที่ประมาณ10 ตารางวาในที่ดินของโจทก์ โดยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ประการใด เป็นการละเมิด ขอให้ศาลขับไล่จำเลยและบริวารให้รื้อถอนบ้านดังกล่าวออกไปจากที่ดินของโจทก์

จำเลยให้การปฏิเสธการมอบอำนาจฟ้องของโจทก์และต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ไม่บรรยายให้ชัดว่าที่ดินโฉนดของโจทก์ทิศเหนือทิศใต้ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกจดเขตที่ดินของใคร ที่ดินตรงที่จำเลยปลูกบ้านเลขที่ 395 เป็นของจำเลย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระราชทานยกให้เนื้อที่ 12 ตารางวา จำเลยครอบครองมาโดยสงบ เปิดเผย และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกือบ 50 ปี จำเลยไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารให้รื้อถอนบ้านเลขที่ 395 ออกไปจากที่ดินของโจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

คดีมีปัญหาในชั้นฎีกาเพียงข้อเดียวว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่แล้ววินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องมาชัดเจนแล้วว่า จำเลยปลูกบ้านเนื้อที่ประมาณ 10 ตารางวา ในที่ดินของโจทก์โฉนดหมายเลขที่ 7083 ตำบลสี่แยกมหานาค (ดุสิต) อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร แม้โจทก์จะไม่ระบุอาณาเขตที่ดินของโจทก์มาว่า ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกจดเขตที่ดินของใคร จำเลยก็อาจเข้าใจข้อหาในฟ้องได้ชัดเจนแล้ว ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม

พิพากษายืน

Share