คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2807/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ผู้ตายกับพวกบุกรุกเข้าไปในบ้านของจำเลยทำร้ายร่างกายน้องเขยจำเลยจนสลบและจะรุมทำร้ายจำเลยอีกจำเลยย่อมมีสิทธิกระทำการใด ๆเพื่อป้องกันตนให้พ้นภยันตรายจากการกระทำของผู้ตายกับพวกที่ใกล้จะถึง การที่จำเลยใช้มีดดาบแทงผู้ตายถึงแก่ความตายในขณะที่จำเลยต่อสู้เพื่อให้พ้นจากการรุมทำร้ายของผู้ตายกับพวก จึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ทั้งกำลังชุลมุนต่อสู้กัน ฝ่ายจำเลยมีเพียงคนเดียว ส่วนผู้ตายกับพวกมีอยู่ถึงสามคน ไม่ปรากฏว่าขณะนั้นพวกผู้ตายคนใดอยู่ในลักษณะอย่างใด ตามรายงานการตรวจศพได้ความว่าผู้ตายถูกแทงเพียงทีเดียวดังนั้นการที่จำเลยแทงผู้ตายด้านหลังจึงรับฟังไม่ได้ว่า ภยันตรายจากการกระทำของผู้ตายกับพวกได้ผ่านพ้นไปแล้ว การกระทำเพื่อป้องกันตนของจำเลยยังไม่หมดไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดดาบเป็นอาวุธแทงพลทหารสุวัฒน์ถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย พิพากษายกฟ้องโจทก์ ของกลางริบ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 72 ของกลางริบ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ผู้ตายกับพวกบุกรุกเข้าไปในบ้านของจำเลยทำร้ายร่างกายน้องเขยจำเลยจนสลบ และจะรุมทำร้ายจำเลยอีก จำเลยย่อมมีสิทธิกระทำการใด ๆ เพื่อป้องกันตนให้พ้นภยันตรายจากการกระทำของผู้ตายกับพวกที่ใกล้จะถึงการที่จำเลยใช้มีดดาบแทงทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตายในขณะที่จำเลยต่อสู้เพื่อให้พ้นจากการรุมทำร้ายของผู้ตายกับพวก จึงเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าตามรายงานการตรวจศพท้ายฟ้องปรากฏว่า ผู้ตายถูกแทงจากข้างหลังไปข้างหน้า เป็นการแทงขณะที่ผู้ตายหันหลังให้ ซึ่งเหตุอันควรป้องกันหมดไปแล้ว จำเลยจึงอ้างว่าป้องกันมิได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ทั้งกำลังชุลมุนต่อสู้กัน ฝ่ายจำเลยมีเพียงคนเดียว ส่วนผู้ตายกับพวกมีอยู่ถึงสามคนทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าขณะนั้นพวกผู้ตายคนใดอยู่ในลักษณะอย่างใด ตามรายงานการตรวจศพได้ความว่าผู้ตายถูกแทงเพียงที่เดียว ดังนั้น การที่จำเลยแทงผู้ตายด้านหลังจึงรับฟังไม่ได้ว่าภยันตรายจากการกระทำของผู้ตายกับพวกได้ผ่านพ้นไปแล้ว การกระทำเพื่อป้องกันตนของจำเลยยังไม่หมดไปดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์ มีดของกลางให้คืนจำเลย

Share