คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2806/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ผู้ตายได้ออกเช็คพิพาทโดยเว้นรายการวันที่ออกเช็คไว้ให้ลูกแชร์คือผู้ทรงไป โดยมีข้อตกลงว่าให้ผู้ทรงไปลงวันที่เองตามกำหนดที่เปียแชร์ได้ แต่นายวงแชร์ถึงแก่ความตาย วงแชร์จึงล้มไม่มีการเปีย เวลาพึงชำระหนี้ตามเช็คที่อาศัยการเปียแชร์เป็นวิธีกำหนดจึงตกเป็นการพ้นวิสัย และจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็มิได้เจ้าหนี้คือผู้ทรงเช็คย่อมมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน แต่ผู้ตายถูกคนร้ายฆ่าเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2528 สิทธิของผู้ทรงที่จะลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คพิพาทเพื่อบังคับตามสิทธิเรียกร้องที่มีอยู่ต่อผู้สั่งจ่ายจึงเริ่มมีขึ้นและมีอยู่ตลอดไปถึงวันครบกำหนดอายุความที่อาจบังคับใช้สิทธิเรียกร้องตามมูลตั๋วเงินนั้น ซึ่งสิทธิเรียกร้องดังกล่าวมีกำหนดอายุความ 1 ปี นับแต่วันตั๋วเงินถึงกำหนด ตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1002 ปรากฏว่าผู้ทรงได้ลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คพิพาทเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2529 ยังอยู่ในกำหนดเวลาที่อาจใช้สิทธิได้ดังกล่าว จึงเป็นการลงวันที่สั่งจ่ายโดยถูกต้องแท้จริงตามสิทธิโดยสุจริตแล้วรายการในเช็คพิพาทจึงสมบูรณ์ครบถ้วน เมื่อการลงวันที่ในเช็คพิพาทมีผลตามกฎหมายวันที่ลงในเช็คพิพาทอันเป็นวันที่เช็คถึงกำหนดใช้เงินที่ปรากฏดังกล่าวคือวันที่ 20 พฤศจิกายน 2529 และธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินในวันนั้น โจทก์ผู้ทรงฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2530 จึงไม่เกินกำหนด 1 ปี ยังไม่ขาดอายุความ โจทก์สลักหลังเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คออกให้แก่ผู้ถือ จึงมีผลเป็นการประกัน (อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่าย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921,989 เมื่อได้ชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่ผู้ทรงตามที่เรียกร้องแล้ว โจทก์ย่อมอยู่ในฐานะผู้รับอาวัลที่ได้ใช้เงินตามเช็คไปแล้ว ย่อมได้สิทธิในอันจะไล่เบี้ยเอาแก่ผู้สั่งจ่ายซึ่งเป็นบุคคลที่ตนได้ประกันไว้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 940 วรรคสาม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายทิวาเหลี่ยมอิทธิพล เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2528 ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่นายทิวาถึงแก่ความตายนั้น นายทิวาได้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็ค 5 ฉบับ ฉบับละ 25,000 บาท แก่ผู้ถือส่งมอบให้ผู้มีชื่อเพื่อชำระหนี้โดยโจทก์ได้ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คทั้ง 5 ฉบับ ต่อมานายทิวาถึงแก่ความตาย ผู้มีชื่อได้ไล่เบี้ยให้โจทก์ชำระเงินตามเช็คทั้ง 5 ฉบับนั้นโจทก์ได้ชำระแทนให้ผู้มีชื่อตามเช็คทั้ง 5 ฉบับแล้ว ผู้มีชื่อได้มอบเช็คทั้ง 5 ฉบับให้โจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็ค 5 ฉบับ เมื่อเช็คทั้ง 5 ฉบับถึงกำหนด โจทก์ได้เรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ทวงถามจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของนายทิวาให้ชำระเงินตามเช็คแล้วแต่จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 130,468 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 125,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า นายทิวาผู้ตายได้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คทั้ง 5 ฉบับจริง โดยเป็นเช็คที่ออกให้แก่ผู้ร่วมเล่นแชร์ที่นายทิวาประมูลแชร์ได้เมื่อ พ.ศ. 2528 แต่มิได้ลงวันที่สั่งจ่ายไว้เพราะได้ตกลงกันไว้ว่า เมื่อผู้ร่วมเล่นแชร์ที่เป็นผู้ทรงคนใดประมูลแชร์ได้ ก็ให้ลงวันที่สั่งจ่ายในเดือนที่ประมูลได้แล้วจึงไปเรียกเก็บเงิน และเช็คพิพาทโจทก์ไม่ได้สลักหลังไว้ แต่เมื่อนายทิวาถึงแก่ความตายแล้ว โจทก์จึงมาลงวันที่สั่งจ่ายเงินเป็นวันที่ 20 พฤศจิกายน 2529 เช็คพิพาทเป็นเช็คที่ลงรายการขาดตกบกพร่องไม่สมบูรณ์เป็นเช็ค นอกจากนั้นโจทก์มาลงลายมือชื่อหลักหลังเช็คพิพาทหลังจากที่นายทิวาถึงแก่ความตายแล้ว และต่อมาได้รับสมอ้างว่าโจทก์ได้จ่ายเงินให้แก่ผู้ทรงเช็คพิพาท โดยที่ธนาคารตามเช็คยังมิได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเลยโจทก์จึงไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเรียกเงินตามเช็คพิพาททั้ง 5 ฉบับ จากจำเลยในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกของนายทิวาผู้ตายได้ การที่โจทก์ลงวันที่สั่งจ่ายเป็นวันที่ 20 พฤศจิกายน 2529 เป็นการลงวันที่สั่งจ่ายให้มีกำหนดสั่งจ่ายพ้นจากกำหนดสั่งจ่ายที่แท้จริงตามข้อตกลงซึ่งหากโจทก์ลงวันที่สั่งจ่ายตามข้อตกลง เช็คฉบับสุดท้ายจะมีวันที่สั่งจ่ายไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2529 ซึ่งนับถึงวันฟ้องจะเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี สิทธิเรียกร้องตามเช็คพิพาททุกฉบับจึงขาดอายุความแล้วขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 125,000 บาท ให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน2529 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน5,468 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติว่า นายทิวาผู้ตายได้ออกเช็คพิพาทโดยเว้นรายการวันที่ออกเช็คไว้ให้ลูกแชร์คือผู้ทรงไป โดยมีข้อตกลงว่าให้ผู้ทรงไปลงวันที่เองตามกำหนดที่เปียแชร์ได้ แต่นายวงแชร์คือนายทิวาถึงแก่ความตายวงแชร์จึงล้มไม่มีการเปีย เวลาพึงชำระหนี้ตามเช็คที่อาศัยการเปียแชร์เป็นวิธีกำหนดจึงตกเป็นการพ้นวิสัย และจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็มิได้ เจ้าหนี้คือผู้ทรงเช็คย่อมมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน แต่ผู้ตายถูกคนร้ายฆ่าเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2528สิทธิของผู้ทรงที่จะลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คพิพาทเพื่อบังคับตามสิทธิเรียกร้องจึงเริ่มมีขึ้นและมีอยู่ตลอดไปถึงวันครบกำหนดอายุความที่อาจบังคับใช้สิทธิเรียกร้องตามมูลตั๋วเงินนั้น ซึ่งสิทธิเรียกร้องดังกล่าวมีกำหนดอายุความ 1 ปี นับแต่วันตั๋วเงินถึงกำหนด ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002ข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ทรงได้ลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คพิพาทเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2529 ยังอยู่ในกำหนดเวลาที่อาจใช้สิทธิได้ดังกล่าวจึงเป็นการลงวันที่สั่งจ่ายโดยถูกต้องแท้จริงตามสิทธิโดยสุจริตแล้ว รายการในเช็คพิพาทจึงสมบูรณ์ครบถ้วน
สำหรับปัญหาที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์สลักหลังเช็คพิพาทโดยผู้สั่งจ่ายไม่ทราบ โจทก์กับผู้สั่งจ่ายจึงไม่มีนิติสัมพันธ์กันนั้นพยานโจทก์ทุกปากที่เป็นผู้รับเช็คจากผู้ตายเบิกความยืนยันตรงกันฟังได้ว่า พยานทุกคนเป็นผู้ให้โจทก์สลักหลังเช็คพิพาทก่อนผู้ตายจะถึงแก่ความตายเพื่อค้ำประกันการเล่นแชร์นี้ด้วยเหตุที่โจทก์เป็นผู้ชักชวนให้เล่นแชร์กับผู้ตาย การสลักหลังเช็คพิพาทจึงเป็นไปตามข้อผูกพัน และจากการจัดการของผู้ทรงเช็คซึ่งเป็นเช็คผู้ถือและมีผลเป็นเพียงการประกัน (อาวัล) ผู้สั่งจ่ายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921 เป็นสิทธิของผู้ทรงเช็คที่จะจัดการดังกล่าวได้ การสลักหลังของโจทก์ในเช็คพิพาทจึงมีผลสมบูรณ์ และข้อเท็จจริงยังรับฟังเป็นยุติได้ตามที่ผู้ทรงเช็คซึ่งเป็นพยานโจทก์ดังกล่าวด้วยว่า โจทก์ได้ชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่ผู้ทรงตามที่เรียกร้องแล้ว โจทก์ย่อมอยู่ในฐานะผู้รับอาวัลที่ได้ใช้เงินตามเช็คไปแล้วย่อมได้สิทธิในอันจะไล่เบี้ยเอาแก่ผู้สั่งจ่ายซึ่งเป็นบุคคลที่ตนได้ประกันไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 940 วรรคสาม
สำหรับปัญหาสุดท้ายที่จำเลยฎีกาว่า คดีโจทก์ขาดอายุความแล้วเนื่องจากนายทิวาออกเช็คพิพาทให้แก่ผู้เล่นแชร์เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2528 ซึ่งหากธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์ก็ต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ลงในเช็ค ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2529 แต่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม2533 นั้น เห็นว่า เมื่อการลงวันที่ในเช็คพิพาทมีผลตามกฎหมายดังที่ได้วินิจฉัยมาข้างต้น วันที่ลงในเช็คพิพาทอันเป็นวันที่เช็คถึงกำหนดใช้เงินที่ปรากฏดังกล่าวคือวันที่ 20 พฤศจิกายน 2529 และธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินในวันนั้น โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2530 จึงไม่เกินกำหนด 1 ปี ยังไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน

Share