แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยทั้งสามโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับมีผลเสมือนว่าเจ้าพนักงานศาลเป็นผู้ส่งตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 73 ทวิ ดังนั้น เมื่อภรรยาของจำเลยที่ 2 ซึ่งมีอายุเกิน 20 ปี และอยู่บ้านเดียวกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแทนจำเลยที่ 1 และที่ 2 และจำเลยที่ 3 ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องด้วยตนเอง ย่อมถือได้ว่ามีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยทั้งสามโดยชอบแล้วตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 29 ประกอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 76 วรรคหนึ่ง จำเลยทั้งสามมีสิทธิยื่นคำให้การได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันดังกล่าว
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้ให้แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยทั้งสามยื่นคำให้การเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2545
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2545 ว่า ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้กับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ทางไปรษณีย์ตอบรับด่วนพิเศษเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2545 จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นคำให้การเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาแล้ว จึงไม่รับคำให้การของจำเลยที่ 1 และที่ 2 และมีคำสั่งเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2545 ว่า จำเลยที่ 3 ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องทางไปรษณีย์ตอบรับด่วนพิเศษ วันที่ 31 สิงหาคม 2545 จำเลยที่ 3 ยื่นคำให้การเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาแล้ว จึงไม่รับคำให้การของจำเลยที่ 3
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามว่า จำเลยทั้งสามยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาของกฎหมายหรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงในสำนวนปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้เสนอรายงานว่าหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องได้จัดส่งให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยวิธีไปรษณีย์ ผลการส่งหมาย คือ ส่งได้ โดยมีชื่อ มณฑา กมลธรรมวงศ์ อายุ 55 ปี เป็นภรรยารับแทนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2545 และเสนอรายงานว่าหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องได้จัดส่งให้จำเลยที่ 3 โดยทางไปรษณีย์ ผลการส่งหมาย คือ ส่งได้โดยจำเลยที่ 3 เป็นผู้รับเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2545 ต่อมาจำเลยทั้งสามยื่นคำให้การเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2545 เห็นว่า คดีนี้หมายเรียกและสำเนาคำฟ้องได้ส่งให้แก่จำเลยทั้งสามโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับจึงมีผลเสมือนว่าเจ้าพนักงานศาลเป็นผู้ส่งตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 73 ทวิ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า นางมณฑา กมลธรรมวงศ์ ภรรยาของจำเลยที่ 2 ซึ่งมีอายุเกิน 20 ปี และอยู่บ้านเดียวกัน ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องดังกล่าวแทนจำเลยที่ 1 และที่ 2 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2545 และจำเลยที่ 3 ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องดังกล่าวด้วยตนเองเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2545 เช่นกัน ตามรายงานเจ้าหน้าที่และใบตอบรับในประเทศย่อมถือได้ว่ามีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยทั้งสามโดยชอบแล้วตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 29 ประกอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 76 วรรคหนึ่ง และจำเลยทั้งสามอาจยื่นคำให้การได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันดังกล่าวตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคหนึ่ง ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 15 กันยายน 2545 การที่จำเลยทั้งสามยื่นคำให้การวันที่ 26 กันยายน 2545 จึงเกินกำหนด 15 วัน ตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยทั้งสามโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับเช่นนี้หาใช่เป็นการส่งโดยวิธีที่ไม่เหมาะสม หรือยังมีความสับสนไม่มีบรรทัดฐานดังที่จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ไม่ อนึ่ง เมื่อจำเลยทั้งสามอุทธรณ์ว่าจำเลยทั้งสามเชื่อโดยสุจริตใจว่าจำเลยทั้งสามมีสิทธิยื่นคำให้การได้ตามกฎหมายภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2545 กรณีจึงไม่มีเหตุจำต้องวินิจฉัยถึงข้อที่จำเลยทั้งสามกล่าวอ้างในทำนองว่าไม่มีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่ 3 จริงอีก ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งไม่รับคำให้การจำเลยทั้งสามนั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.