แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ผู้ร้องซึ่งเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด จ. ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนชั่วคราวของห้าง โดยให้ผู้ร้องแต่ผู้เดียวลงลายมือชื่อและประทับตราของห้างมีอำนาจกระทำการแทนห้าง เพื่อผู้ร้องจะได้กระทำกิจการต่างๆ ในนามห้างได้ อันเป็นการแก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้องของห้างมิให้เกิดความเสียหายเนื่องจากหุ้นส่วนผู้จัดการคนอื่นไม่ยอมลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจร่วมกับผู้ร้องเพื่อดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายจากการที่ผู้อื่นฉ้อโกงห้างทำให้ห้างเสียหาย แม้คำร้องขอของผู้ร้องจะไม่ใช่กรณีตำแหน่งผู้แทนของห้างว่างลงตามที่ ป.พ.พ. มาตรา 73 บัญญัติไว้ แต่ก็ไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ ทั้งไม่มีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นในกรณีนี้ จึงต้องอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาวินิจฉัยคดีตามมาตรา 4 วรรคสอง และมาตรา 73 เป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งที่จะนำมาวินิจฉัยคดีได้ดังนั้นหากได้ความจริงตามคำร้องขอศาลก็สามารถตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนชั่วคราวตามบทกฎหมายดังกล่าวได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัดจะนะการศิลา ห้างดังกล่าวมีหุ้นส่วนผู้จัดการ 4 คน คือ ผู้ร้อง นายพนม สิทธิศักดิ์ นายภาคภูมิ ศิริมาศและนายณรงค์ศักดิ์ เขม้นการนา ข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการมีว่าการทำนิติกรรมใดๆ เพื่อให้มีผลผูกพันห้าง ให้ผู้ร้องหรือนายภาคภูมิลงลายมือชื่อร่วมกับหุ้นส่วนผู้จัดการคนอื่นอีก 1 คน รวมเป็น 2 คน และประทับตราของห้าง มีอำนาจกระทำการแทนห้างได้ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2544 ห้างได้ทำสัญญาซื้อเครื่องปากโคนจากห้างหุ้นส่วนจำกัดผาจุกการศิลา เพื่อนำไปใช้ในกิจการโรงโม่หินของห้างและได้ชำระเงินค่าเครื่องปากโคนเป็นจำนวน 2,935,890 บาท ให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดผาจุกการศิลาไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ห้างยังไม่ได้รับมอบสินค้าเครื่องปากโคนจากห้างหุ้นส่วนจำกัดผาจุกการศิลาแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่ล่วงเลยระยะเวลาส่งมอบเครื่องปากโคนมาเป็นเวลานานแล้ว ห้างได้ทวงถามห้างหุ้นส่วนจำกัดผาจุกการศิลาหลายครั้ง แต่ห้างหุ้นส่วนจำกัดผาจุกการศิลา ก็บ่ายเบี่ยงและเพิกเฉยตลอดมา พฤติการณ์แสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดผาจุกการศิลาไม่ได้มีเครื่องปากโคนไว้ขายและส่งมอบ ต่อมาห้างได้สืบทราบว่าผู้มีอำนาจดำเนินงานของห้างหุ้นส่วนจำกัดผาจุกการศิลาได้ร่วมกับบุคคลอื่นฉ้อโกงห้าง ทำให้ห้างได้รับความเสียหายโดยต้องเสียเงินไป 2,935,890 บาท ห้างจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายกับห้างหุ้นส่วนจำกัดผาจุกการศิลา และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด แต่นายพนมและนายณรงค์ศักดิ์ละเลยไม่กระทำการแทนห้าง โดยไม่ยอมลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจร่วมกับผู้ร้องเพื่อดำเนินคดีแก่ผู้ที่ฉ้อโกงห้าง ทำให้ห้างได้รับความเสียหาย ถือว่าเป็นการขัดขวางและทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อห้างและผู้ร้อง หากให้ห้างอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปก็มีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างยิ่งแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน ซึ่งข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างไม่มีวิธีการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว จึงขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนชั่วคราวของห้างหุ้นส่วนจำกัดจะนะการศิลาโดยให้ผู้ร้องแต่ผู้เดียวลงลายมือชื่อและประทับตราของห้างมีอำนาจกระทำการแทนห้างได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า พฤติการณ์ตามคำร้องขอเป็นกรณีมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างหุ้นส่วนผู้จัดการ จึงเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการฟ้องร้องหุ้นส่วนผู้จัดการผู้ก่อให้เกิดความเสียหาย มิใช่กรณีที่ผู้ร้องจะใช้สิทธิร้องขอต่อศาลตามคำร้องขอ ให้ยกคำร้องขอ ค่าคำร้องขอให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตามคำร้องขอของผู้ร้องกล่าวอ้างว่า ข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดจะนะการศิลา กำหนดให้นายพนม สิทธิศักดิ์ หรือนายณรงค์ศักดิ์ เขม้นการนา คนใดคนหนึ่งต้องลงลายมือชื่อร่วมกับผู้ร้องและประทับตราของห้างจึงจะมีอำนาจกระทำการแทนห้างได้ แต่นายพนมและนายณรงค์ศักดิ์ขัดขวางและทำการเป็นปฏิปักษ์ไม่ยอมลายมือชื่อร่วมกับผู้ร้องในกิจการที่ต้องทำในนามของห้าง คือ ไม่ยอมลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจเพื่อให้ตัวแทนของห้างไปดำเนินการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีแก่ผู้ที่ฉ้อโกงห้าง หากให้ห้างอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปจะทำให้ผู้เป็นหุ้นส่วนเสียหายและข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างไม่มีวิธีการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว เห็นว่า ตามคำร้องขอของผู้ร้องเป็นกรณีที่ผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนชั่วคราวของห้างโดยให้ผู้ร้องแต่ผู้เดียวลงลายมือชื่อและประทับตราของห้างมีอำนาจกระทำการแทนห้าง เพื่อผู้ร้องจะได้กระทำกิจการต่างๆ ในนามห้างได้อันเป็นการแก้ไขอุปสรรคข้อข้องของห้างมิให้เกิดความเสียหาย แม้ข้อเท็จจริงตามคำร้องขอของผู้ร้องจะไม่ใช่กรณีตำแหน่งผู้แทนของห้างว่างลงตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 73 บัญญัติไว้ แต่ก็ไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีนี้ได้ ทั้งไม่มีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นในกรณีนี้ จึงต้องอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาวินิจฉัยคดีนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 วรรคสอง และเห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 73 เป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งที่จะนำมาวินิจฉัยคดีนี้ได้ ดังนั้น หากได้ความจริงตามคำร้องขอ ศาลก็สามารถตั้งผู้ร้องเป็นผู้แทนชั่วคราวตามบทกฎหมายดังกล่าวได้ ที่ศาลชั้นต้นด่วนมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอโดยไม่ทำการไต่สวนเสียก่อนเป็นการไม่ชอบ อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น”
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอของผู้ร้อง ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องขอไว้พิจารณาและดำเนินการต่อไป แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งใหม่.