คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2789/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลูกจ้างได้รับอนุญาตจากผู้ดูแลไร่ของนายจ้างให้ขับรถคัน เกิดเหตุไปซื้อแหนบรถมาใส่รถของนายจ้างคันที่เสียลูกจ้างไปซื้อแหนบรถแล้วขณะขับกลับไร่ มีผู้ว่าจ้างให้ขับรถไปส่งมันสำปะหลัง เมื่อส่งมันสำปะหลังแล้ว ขณะขับรถกลับไร่ได้เกิดชนกับรถของบุคคลอื่นโดยความประมาทของลูกจ้าง เช่นนี้ ถือว่ายังอยู่ในระหว่างปฏิบัติงานในทางการที่จ้างอยู่นายจ้างต้องร่วมรับผิดในผลละเมิดที่ลูกจ้างได้กระทำไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดานายสุรินทร์ มีวัฒนะ ผู้ตาย จำเลยที่ ๑เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๒ ได้ขับรถยนต์บรรทุกตามหน้าที่ในทางการที่จ้างโดยประมาท เป็นเหตุให้ชนรถจี๊ปที่นายปรีชา แซ่ซิ้ม ขับทำให้นายปรีชาและนายสุรินทร์ถึงแก่ความตาย การที่นายสุรินทร์ตาย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย คือ ต้องเสียค่ารถยนต์บรรทุกศพค่าใช้จ่ายในการทำบุญและเผาศพ ค่าขาดไร้อุปการะ รวมเป็นเงิน ๕๒,๔๕๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธความรับผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์รวมเป็นเงิน ๔๐,๔๕๐ บาท กับค่าธรรมเนียม ค่าทนาย ๑,๐๐๐ บาทแทนโจทก์
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒และจำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์บรรทุกโดยประมาท ส่วนประเด็นที่ว่า จำเลยที่ ๑เป็นลูกจ้าง กระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ หรือไม่นั้น เห็นว่าจำเลยที่ ๑ เอารถบรรทุกคันเกิดเหตุไปซื้อแหนบรถมาใส่รถบรรทุกอีกคันหนึ่งของจำเลยที่ ๒ ที่เสีย โดยนายอินทรผู้ดูแลไร่ของจำเลยที่ ๒ รู้เห็นยินยอมเมื่อจำเลยที่ ๑ ซื้อแหนบรถได้แล้ว ก็ขับรถกลับไร่ ยังไม่ทันถึงไร่ มีนายโสมาว่าจ้างจำเลยที่ ๑ ขับรถบรรทุกมันสำปะหลังไปขาย เมื่อขายมันแล้วจำเลยที่ ๑ ขับรถกลับไร่ระหว่างทางกลับก็เกิดเหตุ การที่จำเลยที่ ๑ขับรถไปซื้อแหนบรถโดยนายอินทรผู้ดูแลไร่ของจำเลยที่ ๒ ยินยอมให้ไปจึงเป็นการไปกระทำกิจการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ เพื่อประโยชน์ในการใช้งานรถบรรทุกคันที่เสียของจำเลยที่ ๒ นั้นเอง เมื่อจำเลยที่ ๑ซื้อแหนบรถได้แล้ว ขณะขับรถกลับไร่ มีผู้ว่าจ้างให้บรรทุกมันสำปะหลังเสียเที่ยวหนึ่งก่อน แล้วจึงขับรถกลับไร่ก็เกิดเหตุ จึงยังอยู่ในระหว่างปฏิบัติงานในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ต้องร่วมรับผิดในผลละเมิดที่จำเลยที่ ๑ กระทำไปในทางการที่จ้าง ในฐานะนายจ้างที่จำเลยที่ ๒ ฎีกาว่า เพียงแต่นายอินทรผู้ดูแลไร่อนุญาตให้จำเลยที่ ๑นำรถออกไปซื้อแหนบรถ ไม่ได้อนุญาตให้จำเลยที่ ๑ เอารถไปใช้ทำอะไร ๆก็ได้นั้น เห็นว่า ขณะเกิดเหตุ ยังอยู่ในระหว่างจำเลยที่ ๑ ปฏิบัติงานของจำเลยที่ ๒ ผู้เป็นนายจ้างอยู่ คือกลับจากไปซื้อแหนบรถ การที่จำเลยที่ ๑ฝ่าฝืนคำสั่งนายจ้าง แต่ยังปฏิบัติงานของนายจ้างอยู่ นายจ้างจะอ้างเป็นเหตุไม่ต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกไม่ได้
ประเด็นเรื่องค่าสินไหมทดแทน เห็นว่า ที่ศาลล่างกำหนดให้นั้นเป็นการสมควรแล้ว
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลยที่ ๒ ให้จำเลยที่ ๒ ใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา ๖๐๐ บาทแทนโจทก์

Share