แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 245 วรรคแรก การบังคับคดีตามคำพิพากษาในคดีส่วนอาญาจะกระทำได้ต่อเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วคำพิพากษาในส่วนที่ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเนื่องจากการกระทำผิด มาตรา 44 วรรคสองบัญญัติว่า ให้รวมเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำพิพากษาในคดีอาญา โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายย่อมจะขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาในส่วนนี้ได้ก็ต่อเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วเช่นเดียวกัน แม้มาตรา 249 จะบัญญัติว่าคำพิพากษาให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์สิน ค่าทดแทนหรือค่าธรรมเนียมนั้น ให้บังคับตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. บทบัญญัติดังกล่าวก็ไม่มีผลว่าให้บังคับคดีได้ก่อนคดีถึงที่สุด.
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก คงให้จำคุก 20 ปี และให้จำเลยคืนทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนหรือใช้ราคา 390,764 บาทแก่โจทก์ร่วมจำเลยอุทธรณ์แล้วยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องขอให้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์ของจำเลย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 245 วรรคแรก บัญญัติว่า ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 246, 247และ 248 เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วให้บังคับคดีโดยไม่ชักช้า ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวมีผลว่าการบังคับคดีตามคำพิพากษาในคดีอาญาจะกระทำได้ต่อเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาบังคับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเนื่องจากการกระทำผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44 วรรคสองบัญญัติว่าให้รวมเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำพิพากษาในคดีอาญา การบังคับตามคำพิพากษาในส่วนนี้ย่อมจะกระทำได้ต่อเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วเช่นเดียวกัน แม้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 249จะบัญญัติว่า คำพิพากษาให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์สิน ค่าทดแทนหรือค่าธรรมเนียมนั้นให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง บทบัญญัติดังกล่าวก็ไม่มีผลว่าให้บังคับได้ก่อนคดีถึงที่สุด คดีนี้จำเลยอุทธรณ์ คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ คดียังไม่ถึงที่สุด โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงไม่อาจขอให้บังคับคดีได้
พิพากษายืน.