คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2785/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานชิงทรัพย์ จะปรับบทลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคแปด ย่อมไม่ถูกต้อง เพราะความในบทบัญญัติมาตรานี้มีเพียง 5 วรรคเท่านั้น และที่ลงโทษจำคุก 12 ปีนั้นอยู่ในระวางโทษของวรรคสี่ แต่เมื่อการชิงทรัพย์รายนี้เพียงแต่กระทำในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ จึงเข้าเกณฑ์ของวรรคสอง ไม่ใช่วรรคสี่ โทษที่ลงแก่จำเลยนั้นจึงเกินอัตราไปด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2514 เวลากลางคืน จำเลยใช้มีดเป็นอาวุธขู่เข็ญชิงทรัพย์เอารถยนต์บรรทุกซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของนายประดิษฐ์ไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทำผิดตามฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรค 8 จำคุกจำเลย 12 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(11) จำคุก 5 ปี

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง แต่เห็นว่าที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรค 8ให้จำคุกจำเลย 12 ปีนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะความในบทบัญญัติมาตรา 339นี้มีเพียง 5 วรรคเท่านั้น และโทษที่ศาลชั้นต้นกำหนดอยู่ในระวางโทษของวรรคที่ 4 แต่การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา 339 วรรค 2ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปีเท่านั้น

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรค 2 จำคุกจำเลย 6 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share