แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การพิจารณาว่าคำฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากคำบรรยายฟ้องของโจทก์ว่าเป็นคำฟ้องที่ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรคสอง หรือไม่ แม้คำบรรยายฟ้องของโจทก์จะแตกต่างไปจากคำฟ้องในคดีอาญาหรือแตกต่างไปจากคำเบิกความของโจทก์ในคดีอื่น ก็ไม่เป็นข้อที่จะนำมาพิจารณาว่าฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เคลือบคลุมหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องรวมเป็นเงิน 267,979 บาท แก่โจทก์ ส่วนดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จที่โจทก์มีคำขอมาด้วยนั้นไม่กำหนดให้โจทก์ได้รับ เนื่องจากโจทก์มีคำขอให้คิดดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องโดยคำนวณจากต้นเงิน 267,979 บาท อันเป็นการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย แต่ศาลอุทธรณ์มิได้มีคำพิพากษาให้ชัดเจนว่าให้ยกคำขอของโจทก์ในส่วนนี้ ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ชัดเจน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงิน 267,979 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 267,979 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 100,000 บาทนับแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2545 ต้นเงิน 50,000 บาท นับแต่วันที่ 29 กันยายน2545 ต้นเงิน 100,000 บาท นับแต่วันที่ 9 กันยายน 2545 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 1,500 บาท
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 267,979 บาท ให้โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เรื่องฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากคำบรรยายฟ้องของโจทก์ในคดีนี้ว่าเป็นคำฟ้องที่ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง หรือไม่ ส่วนคำบรรยายฟ้องหรือคำเบิกความในคดีอื่น ไม่เป็นข้อที่จะนำมาพิจารณาว่าฟ้องของโจทก์ในคดีนี้เคลือบคลุมหรือไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าคำฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมนั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาข้อนี้ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
ในคดีส่วนอาญา จำเลยที่ 1 คดีนี้ถูกฟ้องกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดใช้เงินตามเช็คอันเป็นสิทธิเรียกร้องที่ไม่ต้องอาศัยมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค จึงไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 มาใช้บังคับไม่ได้ สำหรับคดีนี้นั้น โจทก์นำสืบว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันค้าขายแผ่นดีวีโอ ซีดีกับโจทก์ โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ซื้อสินค้าจากโจทก์ และมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ออกเช็คพิพาททั้งสามฉบับ มอบให้โจทก์เพื่อชำระค่าสินค้าเดือนมิถุนายน 2545 ตามใบส่งของชั่วคราว ส่วนจำเลยทั้งสองนำสืบว่า จำเลยที่ 1 ออกเช็คพิพาทดังกล่าวเพื่อค้ำประกันในการที่จำเลยที่ 2 ค้าขายกับบริษัทเค. ดี. พี. สตาร์มูฟวี่ จำกัด และได้มีการคิดบัญชีหักหนี้กันหมดแล้ว แต่โจทก์ไม่ยอมคืนเช็คให้ เห็นว่า ที่จำเลยทั้งสองอ้างเป็นหลักฐานที่จำเลยที่ 2 ได้ซื้อสินค้าจากบริษัทเค. ดี. พี. สตาร์มูฟวี่ จำกัด และมีการคิดบัญชีหักกลบลบหนี้กันแล้วนั้น โจทก์ได้ยื่นคำร้องคัดค้านภายใน 8 วัน นับแต่วันส่งเอกสารต่อศาลแล้วว่า จำเลยทั้งสองไม่ส่งสำเนาเอกสารให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 วรรคแรก ตามคำร้องคัดค้านของโจทก์ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน 2547 และกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นให้ไม่ต้องส่งสำเนาเอกสารให้คู่ความฝ่ายอื่นแต่อย่างใด ดังนั้น การที่จำเลยทั้งสองไม่ส่งสำเนาเอกสารที่อ้างเป็นพยานให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90
อนึ่ง ตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามเช็คทั้งสามฉบับพร้อมดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องรวมเป็นเงิน 267,979 บาท แก่โจทก์ส่วนดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จที่โจทก์มีคำขอมาด้วยนั้นไม่กำหนดให้โจทก์ได้รับ เนื่องจากโจทก์มีคำขอให้คิดดอกเบี้ยนับแต่ฟ้องโดยคำนวณจากต้นเงิน267,979 บาท อันเป็นการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย แต่ศาลอุทธรณ์มิได้มีคำพิพากษาให้ชัดเจนว่า ให้ยกคำขอของโจทก์ในส่วนนี้ ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ชัดเจน
พิพากษายืน แต่ให้ยกคำขอของโจทก์ในส่วนที่ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ