คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3776/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์โดยทางตรงตามมาตรา 24 และละเมิดลิขสิทธิ์โดยทางอ้อมตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษตามพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ฯ มาตรา 27 คำขออื่นให้ยกจำเลยอุทธรณ์ฝ่ายเดียวความผิดตามมาตรา 24 จึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องตามข้อความในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฯมาตรา 42 ว่า “ฯลฯ และกฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าวฯลฯ” แต่กล่าวในฟ้องเพียงว่าทั้งประเทศไทยและฮ่องกงซึ่งเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษต่างให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของประเทศภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าว โดยไม่มีคำว่า “กฎหมาย”อยู่หน้าประเทศก็ตาม การกล่าวว่าทั้งสองประเทศต่างให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของประเทศภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าวก็มีความหมายว่ากฎหมายของทั้งสองประเทศได้ให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์นั้นแล้ว เพราะทุกประเทศต้องปกครองโดยกฎหมาย ฟ้องของโจทก์ส่วนนี้จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 แล้ว แต่ที่โจทก์ฟ้องว่า ในวันเวลาเกิดเหตุจำเลยโดยรู้อยู่แล้วว่าภาพยนต์วีดีโอเทปตามฟ้องเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์ร่วมได้บังอาจนำเอาภาพยนต์วีดีโอเทปดังกล่าวออกให้เช่าเสนอให้เช่าแก่ประชาชนทั่วไปเพื่อการค้าอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยไม่ปรากฏว่าภาพยนต์วีดีโอเทปที่จำเลยนำออกให้เช่า เสนอให้เช่านั้นได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น จำเลยอาจนำเอางานที่ได้ทำขึ้นโดยชอบออกให้เช่า เสนอให้เช่าก็ได้อันหาใช่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์โดยทางอ้อมตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฯ มาตรา 27แต่อย่างไรไม่ ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521มาตรา 4, 13, 24, 25, 27, 42, 44,47, 49 พระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนไขเพื่อคุ้มครองลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ พ.ศ. 2526 มาตรา 3, 4ให้ของกลางตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ และจ่ายค่าปรับที่จำเลยชำระตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ร่วมกึ่งหนึ่ง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2521 มาตรา 27 ประกอบด้วยมาตรา 44 วรรคสอง ให้จำคุก 4 เดือนและปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ 2 ปี ให้ม้วนวีดีโอเทปของกลางตนเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์และจ่ายค่าปรับที่จำเลยชำระตามคำพิพากษาแก่โจทก์ร่วมกึ่งหนึ่ง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ของกลางคืนเจ้าของ
โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์โดยทางตรงตามมาตรา 24 และละเมิดลิขสิทธิ์โดยทางอ้อมตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521มาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 24 จึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีมีปัญหาว่าฟ้องของโจทก์เฉพาะความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์โดยทางอ้อมชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 หรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้สร้างสรรค์ภาพยนต์ตามฟ้องโดยโจทก์ร่วมได้โฆษณาเผยแพร่ภาพยนต์ดังกล่าวครั้งแรกในฮ่องกงแล้ว ประเทศไทยและฮ่องกงซึ่งเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษต่างเป็นภาคีในอนุสัญญาแห่งกรุงเบอร์น ค.ศ. 1886 ทั้งสองประเทศต่างให้ความคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์ภาพยนตร์อันเป็นงานมีลิขสิทธิ์ของประเทศภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าว ภาพยนตร์ดังกล่าวจึงได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 และตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนไขเพื่อคุ้มครองลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ พ.ศ. 2526ในวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยโดยรู้อยู่แล้วว่าภาพยนตร์วีดีโอเทปดังกล่าวเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์ร่วม จำเลยได้บังอาจนำออกให้เช่าและเสนอให้เช่าเพื่อการค้าซึ่งภาพยนตร์วีดีโอเทปดังกล่าวอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น แม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องตามข้อความในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2521 มาตรา 42 ว่า “ฯลฯ และกฎหมายของประเทศนั้นได้ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกันแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของภาคีอื่น ๆแห่งอนุสัญญาดังกล่าว ฯลฯ” แต่กล่าวในฟ้องเพียงว่า ทั้งประเทศไทยและฮ่องกงซึ่งเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษต่างให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของประเทศภาคีอื่น ๆ แห่งอนุสัญญาดังกล่าวก็มีความหมายว่ากฎหมายของทั้งสองประเทศได้ให้ความคุ้มครองแก่งานอันมีลิขสิทธิ์นั้นแล้วเพราะทุกประเทศต้องปกครองโดยกฎหมายฟ้องของโจทก์ในส่วนนี้ถูกต้องแล้ว แต่ที่โจทก์ฟ้องว่าในวันเวลาที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยโดยรู้อยู่แล้วว่าภาพยนตร์วีดีโอเทปตามฟ้องเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์ร่วมได้บังอาจนำเอาภาพยนตร์วีดีโอเทปดังกล่าวออกให้เช่าเสนอให้เช่าแก่ประชาชนทั่วไปเพื่อการค้าอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยไม่ปรากฏว่า ภาพยนตร์วีดีโอเทปที่จำเลยนำออกให้เช่า เสนอให้เช่านั้นเป็นงานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น จำเลยอาจนำเอางานที่ได้ทำขึ้นโดยชอบออกให้เช่าเสนอให้เช่าก็ได้ อันหาใช่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์โดยทางอ้อมตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 27 แต่อย่างไรไม่ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521มาตรา 27 ดังที่ศาลชั้นต้นพิพากษา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share